รีเซต

สมาคมผู้ค้าปลีกไทยปล่อยสินเชื่อล็อตแรกกว่า 5 พันล้าน อุ้มเอสเอ็มอีฝ่าวิกฤตโควิด

สมาคมผู้ค้าปลีกไทยปล่อยสินเชื่อล็อตแรกกว่า 5 พันล้าน อุ้มเอสเอ็มอีฝ่าวิกฤตโควิด
ข่าวสด
27 พฤษภาคม 2564 ( 16:53 )
87

 

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า สมาคมผู้ค้าปลีกไทย จะเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อข้อมูลของผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย เพื่อช่วยให้การพิจารณาสินเชื่อกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และเกษตรกร ได้ง่าย สะดวกและรวดเร็ว โดยเฉพาะในสภาวะวิกฤตโควิด-19 ที่ขณะนี้เอสเอ็มอีทั่วประเทศ ขาดสภาพคล่องเป็นอย่างมาก และต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เพื่อให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างง่ายและทั่วถึง และสามารถผ่านวิกฤตโควิด-19 ในครั้งนี้ไปได้ด้วยกันโดยเร็วที่สุด

 

 

ล่าสุดมีการประชุมร่วมกันระหว่างสมาชิกสมาคมและภาคีเครือข่ายกว่า 70 บริษัท ซึ่งมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่อยู่ในห่วงโซ่การค้ามากกว่า 100,000 ราย นับเป็น 40% ของมูลค่าการบริโภคค้าปลีกทั้งประเทศ หรือ คิดเป็น 12% ของเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) โดยร่วมกับธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ 5 รายในเฟสแรก คือ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารออมสิน เพื่อเชื่อมโยงให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถเข้าถึง แหล่งเงินทุน หรือ ซอฟต์โลน ผ่าน ดิจิตอล แฟกเตอร์ริ่ง แพลตฟอร์ม (Digital Factoring Platform)

 

 

“สมาคมผู้ค้าปลีกไทยได้เริ่มโครงการแซนด์บ็อกซ์ ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง เซ็นทรัล รีเทล และ ธนาคารกสิกรไทยโดยการนำข้อมูลการทำธุรกิจระหว่างบริษัทฯ และผู้ผลิตสินค้า หรือคู่ค้าเบื้องต้นกว่า 4,000 ราย ของ เซ็นทรัล รีเทล เพื่อใช้ประกอบในการพิจารณาสินเชื่อของธนาคารกสิกรไทย ผ่านแพลตฟอร์มฯ และได้อนุมัติสินเชื่อกลุ่มแรกให้กับ เอสเอ็มอีมากกว่า 1,000 ราย ในวงเงินรวม 5,000 ล้านบาท ซึ่งกว่า 70% ของเอสเอ็มอีเหล่านี้ยังไม่เคยเข้าถึงแหล่งเงินทุนซอฟต์โลนมาก่อน”

 

 

สำหรับแพลตฟอร์มนี้ทำให้ธนาคารฯ สามารถพิจารณาปล่อยสินเชื่อได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น บนต้นทุนและความเสี่ยงที่ต่ำ และเอสเอ็มอีสามารถชำระหนี้แบบอัตโนมัติผ่านช่องทางดิจิทัล ดังนั้นธนาคารจึงสามารถเสนอสินเชื่อวงเงินที่สูงและอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ อย่างไรก็ดี โครงการนี้ ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมธนาคารไทย ซึ่งจะนำต้นแบบนี้ขยายไปสู่เอสเอ็มอีมากกว่า 100,000 รายทั่วประเทศ ของสมาชิกสมาคมผู้ค้าปลีกไทยและภาคีเครือข่ายภายในสิ้นปี 2564 และในเฟสต่อไป จะขยายผลไปถึงสมาชิกของทุกสมาคมฯ ตั้งแต่ สมาคมศูนย์การค้าไทย สมาคมภัตตาคารไทย สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เป็นต้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง