รีเซต

ผอ.รพ.ราชบุรีแจงปม จนท.รับสาย 1669 ทำเสียงล้อเลียน ยันไม่มีเจตนาเสียดสี บ่ายนี้พาไปเคารพศพ-ขอโทษครอบครัว

ผอ.รพ.ราชบุรีแจงปม จนท.รับสาย 1669 ทำเสียงล้อเลียน ยันไม่มีเจตนาเสียดสี บ่ายนี้พาไปเคารพศพ-ขอโทษครอบครัว
มติชน
21 กรกฎาคม 2563 ( 13:21 )
174
ผอ.รพ.ราชบุรีแจงปม จนท.รับสาย 1669 ทำเสียงล้อเลียน ยันไม่มีเจตนาเสียดสี บ่ายนี้พาไปเคารพศพ-ขอโทษครอบครัว

เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ที่ห้องประชุมโรงพยาบาลราชบุรี นายแพทย์พิเชียร วุฒิสถิรภิญโญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชบุรี นายแพทย์นิคม มะลิทอง รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ 1 พร้อมผู้บริหารโรงพยาบาลราชบุรี ตั้งโต๊ะแถลงชี้แจง กรณีโรงพยาบาลได้รับเรื่องร้องเรียน การใช้บริการสายด่วน 1669 และมีการใช้คำพูดของเจ้าหน้าที่ไม่เหมาะสม

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่า ผู้ป่วยได้รับบริการในระบบการแพทย์ฉุกเฉินเป็นไปตามมาตรฐานด้านความทันเวลาในการออกให้บริการ สามารถให้บริการได้ภายใน 7 นาที หลังรับแจ้งเหตุครั้งแรก (รับแจ้งเวลา 07.14 น. ออกรถเวลา 07.16 น. ถึงบ้านผู้ป่วยเวลา 07.22 น.) เมื่อถึงแผนกฉุกเฉินโรงพยาบาลราชบุรีได้รับการดูแลตามเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนการใช้คำพูดในการให้บริการ จากที่ได้รับการร้องเรียนว่าการติดต่อทางสายด่วน 1669 ครั้งที่ 3 ได้มีผู้ชายรับสาย และพูดว่า ไม่ได้ยินครับ ไม่ได้ยินครับ พร้อมกับเลียนเสียงตัดสาย ตู๊ด ตู๊ด แล้วจึงวางสายไป จากการสอบสวนข้อมูลเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ผู้รับสายให้ข้อมูลว่า ณ การให้บริการครั้งนั้น ไม่ได้ยินเสียงการสนทนาจากปลายเสียง จึงพูดว่า “ ไม่ได้ยินครับ ไม่ได้ยินครับ ไม่มีสัญญาณครับ ได้ยินแต่เสียง ตู๊ด ตู๊ด แล้วจึงวางสาย

นพ.พิเชียร สอบถามที่เจ้าหน้าที่ดังกล่าว ระบุว่า ยืนยันว่าไม่มีเจตนาจะพูดเสียดสี หรือล้อเลียนแต่อย่างใด ซึ่งอาจจะมีบางคำที่ญาติป่วยไม่ได้ยิน ยอมรับเรื่องนี้ละเอียดอ่อน เเละเกิดจากความเข้าใจผิดกัน ส่วนตัวเข้าใจความรู้สึกของญาติผู้ป่วยว่าในขณะนั้นอารมณ์ที่เป็นห่วงพ่อคงจะร้อนใจ เมื่อได้รับฟังบางถ้อยคำจึงอาจจะทำให้ไม่สบายใจ เป็นที่มาของโพสต์ดังกล่าว ทั้งนี้ จากการพูดคุยเบื้องต้นกับญาติของผู้ป่วย เจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้ติดใจในส่วนของระบบการทำงานของโรงพยาบาล เพราะรถฉุกเฉินสามารถไปถึงปลายทางที่เกิดเหตุ โดยใช้เวลาเพียง 7 นาที ถือว่าเร็วกว่าเวลามาตรฐานระบุต้องถึงปลายทาง 8 นาที

นพ.พิเชียรกล่าวว่า การแก้ไขปัญหา ทางโรงพยาบาลได้จัดทีมเข้าไปดูแลภรรยา บุตรสาว และช่วยเหลือด้านการจัดการศพผู้เสียชีวิต และได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว โดยมีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ปรับเปลี่ยนหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ และมีการทบทวนการจัดการเพื่อป้องกันความเสี่ยงไม่ให้เกิดซ้ำรอยอีก
อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายของวันนี้ ทางผู้อำนวยการพร้อมคณะผู้บริหารโรงพยาบาลราชบุรีจะนำเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวไปเคารพศพนายพิสิษฐ์ องค์พิสุทธิ์ อายุ 53 ปี ผู้เสียชีวิต ซึ่งตั้งบำเพ็ญกุศลศพไว้ที่วัดดอนตะโก อ.เมือง พร้อมกล่าวคำขอโทษกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง