BCHรายได้โตเกิน100% บุ๊กโมเดอร์นาโค้งท้าย
ทันหุ้น – BCH ลุ้นโค้งท้ายโตแรง รายได้โมเดอร์นาหนุน เผย 29 พฤศจิกายนนี้ เข้ามาอีก 2 ล้านโดส มั่นใจรายได้ปีนี้โตเกิน 100% มองปี 2565 โตต่อ รับอานิสงส์โควตาประกันสังคม คนไข้กลับมาใช้บริการปกติ แถมรพ.เกษมราษฎร์ เวียงจันทน์ ดัน EBITDA เป็นบวก
ศ.ดร.นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH เปิดเผยว่า คาดผลประกอบการไตรมาส 4/2564 จะดีต่อเนื่อง เพราะรับรู้รายได้จากการวัคซีนโมเดอร์นา ซึ่งได้มีการทยอยฉีดไปแล้วหลังจากมีการนำเข้ามา ทั้งนี้วัคซีนโมเดอร์นาจะมีการนำเข้ามาอีก 2 ล้านโดสในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 นี้ และจัดสรรให้แก่โรงพยาบาลที่ทำการจองไว้
โดยบริษัทคาดว่าจะได้วัคซีนจากล็อตนี้จำนวน 4 แสนโดส อย่างไรก็ดีทั้งกลุ่มโรงพยาบาลมีโควตาโมเดอร์นาจำนวน 2.2 ล้านโดส ทำให้จะมีรายได้เข้ามาต่อเนื่องถึงไตรมาส 2/2565 และมีโอกาสที่จะสั่งจองเพิ่มอีก อย่างไรก็ดีกลุ่มโรงพยาบาลสามารถทำผลประกอบการได้ดีต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาทำให้ปีนี้รายได้จะสามารถเติบโตได้เกิน 100% อีกทั้งปัจจุบันเริ่มเห็นแนวโน้มผู้ป่วยกลับมาเข้ามาใช้บริการโรงพยาบาลในเครือมากขึ้นทั้งผู้ป่วยนอก (OPD) ผู้ป่วยใน (IPD)
*ประกันสังคม-เวียงจันทน์ หนุน
อีกทั้งปีหน้าคาดว่ารายได้จากประกันสังคมทั้งกลุ่มโรงพยาบาลจะมากขึ้นตามโควตาจะเพิ่มขึ้งถึงระดับ 1.4 ล้านคน รวมไปถึงที่ผ่านมามีการเปิด “รพ.เกษมราษฎร์ เวียงจันทน์” มียอดเข้ามาใช้บริการทำรายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทำให้ กำไรหลักก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) กลับมาเป็นบวกได้หลังจากเปิดโรงพยาบาลได้หนึ่งเดือน และยังพิจารณาโอกาสที่จะขยายโรงพยาบาลเพิ่มด้วยเพื่อรองรับการเติบโตต่อไป
สำหรับผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2564 มีกำไรสุทธิ 2,896.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 601% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 413.36 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2564 มีกำไรสุทธิ 4,365.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 359% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 951.09 ล้านบาท
ขณะที่ในไตรมาส 3/2564 บริษัทมีรายได้รวม 7,978.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 235.69% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 5,601.50 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้ผู้ป่วยทั่วไปคิดเป็น 90.36%สัดส่วนรายได้ผู้ป่วยโครงการประกันสังคม 9.40% ส่งผลให้งวด 9 เดือน ปี 2564 บริษัทมีรายได้รวม 14,691.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 120.10% จากช่วงเดียวกันปีที่ 6,674.75ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น
*ต่างชาติเริ่มกลับมา
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง BCH ว่า ปี2565 คาดว่ารายได้เกี่ยวกับ COVID-19 ยังมีแต่จะลดลง ขณะที่จะได้ผลบวกจากการเปิดประเทศ คนไข้ต่างชาติจะเริ่มกลับมา รวมถึง Pent Up Demand ของกลุ่มลูกค้าโรคซับซ้อน แม้คาดว่ารายได้ปี 2565 จะปรับลดลง 40% แต่หากไปเทียบกับช่วงปี 2562–2563 คาดรายได้ยังเติบโต 17% และ 16% ตามลำดับ คงคำแนะนำ “ซื้อ” แม้ตลาดมองว่าผลประกอบการจะพีคสุดในไตรมาส 3/2564 ส่วนปี 2565 จะชะลอตัวจากฐานที่สูง แต่หากเทียบกับระดับกำไรช่วงปี 2562-2563 ถือว่ากำไรของ BCH ยังเติบโตดีกว่า ซึ่งมาจากทั้ง Organic Growth และ Pent Up Demand เบื้องต้นคงมูลค่าพื้นฐานในปี 2565 ที่ 31.20 บาท อิงวิธี DCF ที่WACC ที่ 7.3%