MGT กรีนซัพพลายเชน บิ๊กโปรเจ็กต์หนุนโต

#MGT #ทันหุ้น – MGT ส่งสัญญาณปีม้าโตแรงรับเมกะเทรนด์โลก คว้าบิ๊กโปรเจ็กต์ เจาะเคมีภัณฑ์สาย คาร์บอนฟุตพรินต์ รับดีมานด์ยุโรป สหรัฐ ฟากบอสใหญ่ “วิทยา อินาลา” ตั้งเป้ารายได้โต 20% พร้อมยกเครื่ององค์กร ลงทุน ERP ใหม่ ขน AI เพิ่มประสิทธิภาพสินค้า

ดร.วิทยา  อินาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมกาเคม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MGT เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า  แนวโน้มธุรกิจปี 2569 บริษัทมองเป็นบวก จากการได้รับ โปรเจ็กต์ใหม่ที่พัฒนาร่วมกับลูกค้ารายใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มเคมีภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ คาร์บอนฟุตพรินต์ และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Emission) เพื่อตอบโจทย์กระแสโลกร้อน ซึ่งได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นจากลูกค้าใน ตลาดยุโรป ที่ให้ความสำคัญกับมาตรฐานสิ่งแวดล้อมและข้อมูลด้านความยั่งยืน ส่งผลให้ผู้ประกอบการรายเล็กอาจเข้าถึงโอกาสได้ยาก ขณะที่ MGT ซึ่งมีฐานลูกค้ารายใหญ่และศักยภาพการผลิตในประเทศไทยเพื่อส่งออก มีโอกาสขยายธุรกิจได้อย่างชัดเจน

ทดสอบสินค้า

ทั้งนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการทดสอบผลิตภัณฑ์เพื่อรุกตลาดยุโรปและสหรัฐ คาดว่าจะทราบผลภายในปีนี้ โดยแนวโน้มจะเริ่มเห็นการเติบโตตั้งแต่ปี 2568 และเร่งตัวชัดเจนในช่วง ครึ่งหลังปี 2569 (ไตรมาส 3–4)

ขณะที่ภาพรวมทั้งกลุ่ม MGT คาดว่าปี 2569 จะเติบโตประมาณ 20% จากปีก่อน โดยบริษัทได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินงานด้วยการลงทุนพัฒนาระบบ ERP ใหม่ และนำ AI เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์เศรษฐกิจโลกในอนาคต พร้อมกันนี้ยังมีแผนเข้าลงทุนหรือซื้อกิจการขนาดเล็กที่มีศักยภาพ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของพอร์ตธุรกิจ

นอกจากนี้ กลุ่ม MGT ยังขยายสู่ธุรกิจ ไบโอเทคโนโลยี และการจำหน่ายเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ โดยเข้าไปมีบทบาทสนับสนุนและให้คำแนะนำด้านงานวิจัยเพื่อเร่งการเติบโต ซึ่งมีขนาดตลาดใหญ่กว่าสิงคโปร์ โดยบริษัทถือหุ้นในกิจการดังกล่าวสัดส่วน 65%

ธุรกิจในเครือ

ปัจจุบัน MGT มีธุรกิจในเครือ ได้แก่ บริษัท เมกาเคม พลัส จำกัด ดำเนินธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์ประเภทเอทานอล, บริษัท กรีน ลีฟ เคมีคอล จำกัด นำเข้าและจำหน่ายเคมีภัณฑ์สำหรับอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย อาหารเสริมและยา รวมถึงบริการทดสอบความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์

และ บริษัท เมกา ฟูจิ กราไฟท์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่าย Expanded Graphite ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจใหม่ที่เริ่มมีความพร้อมและจะเข้ามาเสริมการเติบโตของกลุ่มในระยะถัดไป

อนึ่ง 9 เดือนแรกปี 2568 บริษัทมีรายได้แล้วที่ 922.23 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 70.35 ล้านบาท