สะพรึง! เตือนภัย ‘โควิด-19’ ทนร้อนได้ถึง 60 องศา

ทีมวิจัยของมหาวิทยาลัย เอกซ์-มาร์กเซย์ ในเมืองมาร์กเซย์ ตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส เผยแพร่ผลการทดลองสภาพทนความร้อนของเชื้อไวรัส ซาร์ส-โคฟ-2 ซึ่งก่อให้เกิดโรคระบาดโควิด-19 ผ่านเว็บไซต์ ไบโออาร์ซิฟ เมื่อวันที่ 12 เมษายนนี้ ระบุว่า เชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 ยังคงหลงเหลือความสามารถในการแบ่งตัวเพื่อแพร่เชื้อระลอกใหม่ได้หลังจากใช้ความร้อนสูงถึง 60 องศารมเป็นเวลา 1 ชั่วโมงแล้วก็ตามที ทีมวิจัยต้องเพิ่มความร้อนขึ้นจนถึงระดับ 92 องศาหรือเกือบถึงจุดเดือดของน้ำ จึงสามารถฆ่าเชื้อได้หมด
ศาสตราจารย์ เรมี ชาร์เรล หัวหน้าทีมวิจัยผลการวิจัยครั้งนี้เป็นการเตือนถึงอันตรายของไวรัสนี้ต่อนักวิจัยที่ทำงานวิจัยหรือบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับไวรัสชาร์ส-โคฟ-2 โดยเฉพาะ ว่าควรจะสวมชุดป้องกันเชื้อเต็มรูปแบบ หรือ แฮซแมท ทุกครั้งเมื่อทำงาน และเมื่อทำงานศึกษาวิจัยเสร็จในแต่ละขั้นตอนจำเป็นต้องกำจัดเชื้ออย่างถูกต้องทั้งหมดก่อนเริ่มขั้นตอนต่อไป
ทีมวิจัยในฝรั่งเศสใช้การฉีดไวรัสที่ยังมีชีวิตซึ่งได้จากผู้ป่วยรายหนึ่งในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ใส่เซลล์ไตของลิงแอฟริกัน ซึ่งเป็นตัวทดลองมาตรฐานสำหรับการทดลองไวรัสมีชีวิต จากนั้นนำเซลล์ของสัตว์ทดลองที่ติดเชื้อใส่หลอดทดลอง 2 หลอด ซึ่งจำลองสภาวะแวดล้อมในความเป็นจริง 2 แบบคือแบบที่สะอาดและสกปรก (เช่นในช่องปากของมนุษย์เป็นต้น)
หลังจากผ่านการให้ความร้อน 60 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 1 ชั่วโมง เชื้อในหลอดทดลอง “สะอาด” ถูกกำจัดจนหมด แต่ในหลอดทดลอง “สกปรก” แม้ว่าฤทธิ์ของเชื้อจะลดลงอย่างชัดเจน แต่ก็ยังคงมีชีวิตอยู่และสามารถเริ่มต้นการแพร่เชื้อรอบใหม่ได้
ทั้งนี้ที่อุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 1 ชั่วโมงนั้นเป็นระเบียบวิธีมาตรฐานในห้องปฏิบัติการที่สามารถยับยั้งไวรัสอันตรายได้หลากหลายชนิด รวมทั้ง ไวรัสอีโบลา แต่ใช้ไม่ได้ผลกับไวรัสก่อโรคโควิด-19 ทีมวิจัยต้องเพิ่มอุณหภูมิเป็น 92 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 นาทีจึงฆ่าไวรัสได้ทั้งหมด
งานวิจัยดังกล่าวนี้สอดคล้องกับผลงานวิจัยก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า สภาพภูมิอากาศไม่ได้ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อขีดความสามารถในการแพร่เชื้อของไวรัสโควิด-19 แต่อย่างใด