"พีเคเอ็น อินเตอร์โฮลดิ้ง" จะนำหุ้นเข้าตลาด mai ขาย IPO 25.40 ล้านหุ้น
!["พีเคเอ็น อินเตอร์โฮลดิ้ง" จะนำหุ้นเข้าตลาด mai ขาย IPO 25.40 ล้านหุ้น](https://cms.dmpcdn.com/contentowner/2020/08/18/15980f10-e133-11ea-8e82-0b494f6be91c_original.jpg)
!["พีเคเอ็น อินเตอร์โฮลดิ้ง" จะนำหุ้นเข้าตลาด mai ขาย IPO 25.40 ล้านหุ้น](https://cms.dmpcdn.com/news/2024/05/29/d4eba6f0-1d99-11ef-8041-adc9c7ed57e4_original.jpeg)
#ทันหุ้น-บริษัท พีเคเอ็น อินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PKN เตรียมนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) จะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 25.40 ล้านหุ้น คิดเป็น 25.30% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ โดยมีบริษัท ออพท์เอเซีย แคปิตอล จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
บริษัท พีเคเอ็น อินเตอร์โฮลดิ้ง ประกอบธุรกิจธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์ สินค้าเพื่อการสะสม สินค้าลิมิเต็ด สินค้าพรีเมี่ยม และสินค้าลิขสิทธิ์ ได้ยื่นแบบไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขออนุญาตเสนอขายหุ้น IPO ดังกล่าว โดยเงินที่ได้จากการระดมทุน บริษัทมีแผนจะนำไปใช้เป็นเงินลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง และมีศักยภาพในอนาคต เช่น การเข้าซื้อกิจการ และเงินบาทส่วนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนในการขยายตัวแบรนด์ ‘IGNITE’ โดยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของผลิตภัณฑ์ด้วยการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ร่วมกับดีไซน์ที่ทันสมัยและคาแรคเตอร์ที่เป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง เหมาะกับการสะสม และขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้นและหลากหลาย ได้แก่ การขายสินค้าผ่านออนไลน์แพลตฟอร์ม (Online Platform) ที่เป็นที่นิยม ได้แก่ Shopee และ Lazada และการฝากขายในร้านหรือห้างสรรพสินค้าที่เป็นที่รู้จักของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
บริษัทมีรายได้จากการขายในปี 2564 ถึงปี 2566 และงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2566 และ 31 มีนาคม 2567 เท่ากับ 141.22 ล้านบาท 238.07 ล้านบาท 252.06 ล้านบาท 60.85 ล้านบาท และ 55.84 ล้านบาท ตามลำดับ ทั้งนี้ รายได้ของบริษัทสามารถจำแนกออกได้เป็น 3 กลุ่มหลัก ดังต่อไปนี้ 1) รายได้จากสินค้าลิขสิทธิ์จากลูกค้ากลุ่มธุรกิจ (B2B) 2) รายได้จากสินค้าลิขสิทธิ์จากลูกค้ารายย่อย (B2C) และ 3) รายได้จากสินค้าและบริการอื่น
โครงสร้างผู้ถือหุ้น จะมีกลุ่มปรินทร์ธรณ์ อภิธนาศรีวงศ์ และคนในครอบครัวไต้ธงชัย ได้แก่นางสาวจิรชนีย์ ใต้ธงชัย นางสาวทวีพร ใต้ธงชัย และนางสาวปัณณิภัสร์ ใต้ธงชัย ถือหุ้นรวมกัน ในสัดส่วน 66% โดยมีนายปรินทร์ธรณ์ ถือหุ้นใหญ่สุดในสัดส่วน 51.80% และจะมีกลุ่มกรรมการ ผู้บริหารและครอบครัวถือหุ้นรวมกัน 10.50%