หุ้นไทยวันนี้ 13 พฤศจิกายน 2568 ปิดบวก 2.63 จุด แกว่งผันผวนในแดนบวก

ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (13 พ.ย. 2568) ปิดบวกเล็กน้อย โดยดัชนี SET Index ปิดที่ 1,287.44 จุด เพิ่มขึ้น 2.63 จุด หรือ +0.20% มูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสิ้น 34,627.43 ล้านบาท ท่ามกลางการเคลื่อนไหวที่ผันผวนในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยระหว่างวันทำระดับสูงสุดที่ 1,292.42 จุด และต่ำสุดที่ 1,282.06 จุด

แรงซื้อหุ้นใหญ่หนุนตลาด – BDMS คึกคัก, CPALL ฟื้นหลังงบต่ำคาด

นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวผันผวนแต่ยังสามารถปิดในแดนบวกได้ โดยเป็นการฟื้นตัวหลังจากดัชนีปรับลงในช่วงก่อนหน้า เนื่องจากนักลงทุนเริ่มรับรู้ผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาต่ำกว่าคาดไปแล้ว

หุ้นที่เคยถูกแรงขายจากงบอ่อนแออย่าง CPALL และ CPAXT กลับมาฟื้นตัวขึ้น ขณะเดียวกันมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาในหุ้นโรงพยาบาล BDMS อย่างคึกคัก ช่วยหนุนให้ดัชนีเคลื่อนไหวเชิงบวก แม้ยังไม่มีปัจจัยภายในประเทศใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่มเติม

ตลาดภูมิภาคเคลื่อนไหวสลับบวก-ลบ นักลงทุนจับตา CPI สหรัฐ

สำหรับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งบวกและลบสลับกัน โดยนักลงทุนรอดูความชัดเจนจากปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะ ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนตุลาคมของสหรัฐฯ ที่จะทยอยประกาศออกมา ซึ่งจะมีผลต่อทิศทางการเงินและการลงทุนในระยะถัดไป

ขณะเดียวกัน การที่รัฐบาลสหรัฐยุติภาวะ Government Shutdown ชั่วคราว ยังถือเป็นปัจจัยบวกต่อ Sentiment ของตลาดโลกในระยะสั้น

แนวโน้มตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้ (14 พ.ย. 2568)

นักวิเคราะห์มองว่า ตลาดหุ้นไทยมีโอกาส ฟื้นตัวต่อในกรอบจำกัด โดยคาดกรอบดัชนีไว้ที่

แนวต้าน 1,297–1,304 จุด

แนวรับ 1,280–1,285 จุด

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุดประจำวัน

1.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 3,879.21 ล้านบาท ปิดที่ 19.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท

2.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,476.47 ล้านบาท ปิดที่ 44.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท

3.PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,328.77 ล้านบาท ปิดที่ 30.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

4.TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,114.83 ล้านบาท ปิดที่ 11.80 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

5.SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,074.38 ล้านบาท ปิดที่ 128.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

สรุปภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันนี้: แม้จะยังอยู่ในภาวะผันผวน แต่แรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีกและโรงพยาบาล มีส่วนช่วยหนุนให้ดัชนี SET ปิดบวกได้เล็กน้อย ขณะที่แนวโน้มระยะสั้นยังคงต้องจับตาปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่จะเป็นตัวกำหนดทิศทางการลงทุนในช่วงต่อไป