รีเซต

AMATAดีมานด์ฟื้น ยอดขายปี66แกร่ง มีแบ็กล็อก5.7พันล.

AMATAดีมานด์ฟื้น ยอดขายปี66แกร่ง มีแบ็กล็อก5.7พันล.
ทันหุ้น
13 ธันวาคม 2565 ( 07:25 )
174
AMATAดีมานด์ฟื้น ยอดขายปี66แกร่ง มีแบ็กล็อก5.7พันล.

#AMATA #ทันหุ้น – AMATA ปักธงปี 2566 ยอดขายทะยาน 10% จากปีนี้ รับพอร์ตลูกค้าขยายตัว พร้อมลุยพัฒนาที่ดินต่อเนื่อง ปัจจุบันมีแบ็กล็อกอยู่ราว 5.7 พันล้านบาท แถมปรับรูปแบบการใช้พลังงาน-กระบวนการกำจัดขยะ หวังลดคาร์บอนลง 30% ในปี 2573 ฟากโบรกมองปี 2566 กำไรจะกลับมาฟื้นตัวเติบโต 197% มองเป็นโอกาสลงทุน เป้า 27 บาท

 

นายวิบูลย์  กรมดิษฐ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA เปิดเผยว่า ในปี 2566 บริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโต 10% เมื่อเทียบกับปี 2565 เนื่องจากแนวโน้มความต้องการปรับตัวดีขึ้น สอดคล้องกับภาพรวมเศรษฐกิจที่ขยายตัว

 

ขณะที่ในปี 2565 บริษัทยังคงประมาณการยอดขายไว้ราว 650 ไร่ ผลมาจากความต้องการ (ดีมานด์) ในการลงทุนทั้งในและต่างประเทศปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องหลังมีการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นผลดีต่อธุรกิจและช่วงที่เหลือความต้องการยังดีขึ้น

 

*แบ็กล็อก 5.7 พันล.

 

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมียอดขายที่รอโอน (Backlog) ประมาณ 5.7 พันล้านบาท จากโครงการในทำเลต่างๆ ซึ่งคาดน่าจะสามารถโอนได้ในปีหน้าประมาณ 60% และที่เหลือต่อเนื่องไปในปีถัดไป รวมทั้งบริษัทมีแนวทางพัฒนาที่ดินใหม่ต่อเนื่อง จากที่มีพื้นที่อยู่ระหว่างรอการพัฒนาราว 1.29 หมื่นไร่ หวังสนับสนุนการเติบโตในระยะยาวอีกทางหนึ่ง

 

รุกโมเดลลดคาร์บอน

 

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแนวทางในการปรับเปลี่ยนกระบวนการกำจัดขยะจากเดิมเป็นแบบฝังกลบให้ลดลงต่อเนื่อง ประกอบกับมีการปรับเปลี่ยนการใช้พลังงานมาเป็นพลังงานสะอาดมากขึ้น ตลอดจนยังจะมีการเพิ่มพื้นที่สีเขียวผ่านโครงการปลูกต้นไม้เพิ่มเติม ซึ่งหากทุกอย่างสำเร็จลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งทางตรงและทางอ้อมให้สามารถลดลง 30% ในปี2573

 

*กำไรปี 66 กลับมาฟื้นตัว

 

บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ฝ่ายวิเคราะห์มีมุมมองเป็นบวกต่อหุ้น AMATA เพราะประเมินว่าแนวโน้มกำไรปกติงวดไตรมาส 4/2565 คาดจะเติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยสาเหตุการเติบโตดังกล่าวมาจากการเข้าสู่ฤดูกาลที่มีการโอนที่ดินในช่วงปลายปีเป็นหลัก ผนวกกับคาดรายได้จากการให้บริการและสาธารณูปโภคที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากจำนวนลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น โดยประมาณการทั้งปี 2565 จะมีกำไรปกติที่ 762 ล้านบาท ลดลง 10% จากปีก่อน

 

ส่วนทิศทางในปี2566 คาดว่ากำไรจะกลับมาฟื้นตัวอยู่ที่ 2.26 พันล้านบาท เติบโต 197% โดยมองว่าในปีหน้านักลงทุนมีแนวโน้มเข้าเยี่ยมชมพื้นที่ในนิคมมากขึ้น ทำให้ยอดPre-Sale และโอกาสการ Transfer มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เช่นเดียวกับธุรกิจสาธารณูปโภคที่มีแนวโน้มเติบโตสูง ตามทิศทางของจำนวนลูกค้าในนิคมต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น

 

*จังหวะลงทุนเป้า 27 บ.

 

ทั้งนี้จากปัจจัยดังกล่าว ประกอบกับความพยายามที่จะสร้างความมั่นคงด้านสาธารณูปโภคและการบริหารจัดการน้ำตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อให้ความมั่นใจแก่ลูกค้าในนิคมว่าจะสามารถดำเนินธุรกิจได้ต่อเนื่อง แม้ในช่วงน้ำแล้งฝนทิ้งช่วง หรือแม้กระทั่งการจัดการน้ำช่วงน้ำมาก

ขณะเดียวกันทางผู้บริหาร AMATA ยังคงเป้ายอดยอดขายปีนี้ไว้ที่ประมาณ 650 ไร่ ซึ่งฝ่ายวิเคราะห์มองว่ามีโอกาสเป็นไปได้ตามเป้า เนื่องจากมีลูกค้ารายใหญ่ 2-3 รายในช่วงไตรมาส 4/2565 และคาดเป้ายอดขายในปีหน้าที่ราว 700-800 ไร่ ทำให้ฝ่ายวิเคราะห์จึงมองเป็นโอกาสในการเข้าลงทุน รวมทั้งยังให้คำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น AMATA ให้ราคาเป้าหมายไว้ระดับ 27.00 บาท

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง