รีเซต

'เฉลิมชัย' มอบนโยบายบริหารจัดการผลไม้เชิงรุกปี 64 'ฟรุตบอร์ด' ทุ่มกว่า 400 ล้าน รับมือผลไม้ฤดูกาลใหม่

'เฉลิมชัย' มอบนโยบายบริหารจัดการผลไม้เชิงรุกปี 64 'ฟรุตบอร์ด' ทุ่มกว่า 400 ล้าน รับมือผลไม้ฤดูกาลใหม่
มติชน
29 มกราคม 2564 ( 13:06 )
36
'เฉลิมชัย' มอบนโยบายบริหารจัดการผลไม้เชิงรุกปี 64 'ฟรุตบอร์ด' ทุ่มกว่า 400 ล้าน รับมือผลไม้ฤดูกาลใหม่

‘เฉลิมชัย’ มอบหมายนโยบายบริหารจัดการผลไม้เชิงรุกปี 2564 ‘ฟรุตบอร์ด’ ทุ่มงบกว่า 400 ล้านเร่งพัฒนาและรับมือผลไม้ฤดูกาลใหม่ บุกตลาดออนไลน์-ออฟไลน์ ปรับแผนโลจิสติกส์เพิ่มขนส่งทางรางสู่เอเชียและยุโรป พร้อมเร่งปั้นนิคมอุตสาหกรรมผลไม้ดึง AIC และ ส.อ.ท.ร่วมขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาผลไม้ไทยอย่างยั่งยืน

 

เมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบหมายให้นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) ครั้งที่ 2/2564 พร้อมด้วย นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประยูร อินสกุล รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายทินกร อ่อนประทุม คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ นายชาตรี บุญนาค รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการฯ และคณะกรรมการ ประชุมทางไกลออนไลน์ ผ่านระบบ ZOOM Application

 

นายอลงกรณ์เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้ได้ย้ำถึงแนวทาง 5 ยุทธศาสตร์ 15 ตามนโยบายหลักของนายเฉลิมชัย ในการบริหารงานปี 2564 และขอให้ใช้กลยุทธ์เชิงรุกในการทำงานยุคโควิด-19 ต่อคณะกรรมการฟรุตบอร์ด (fruit board) โดยมอบหมายฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการฯประสานการจัดทำแผนการบริหารจัดการตลอดห่วงโซ่อุปทานผลไม้ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ จากสวนถึงผู้บริโภค รวมทั้งปรับแผนโลจิสติกส์ (logistics plan) ระบบการขนส่งกระจายผลไม้ทั้งในและต่างประเทศ โดยเพิ่มแผนขนส่งทางรางเชื่อมไทยเชื่อมโลก เชื่อมทางรถไฟจีนที่ลาว และที่ด่านผิงเสียงชายแดนเวียดนามสู่ตลาดจีนเกาหลี รัสเซีย มองโกเลีย เอเซียกลาง ตะวันออกกลางและยุโรป

 

นายอลงกรณ์กล่าวว่า รวมทั้งแผนการวิจัยและพัฒนาผลไม้ตลอดห่วงโซ่อุปทานใช้วิทยาการสมัยใหม่และเทคโนโลยีเพื่อลดต้นทุนสร้างมูลค่าเพิ่มแผนแรงงาน แผนระบบตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค แผนสื่อสารประชาสัมพันธ์และการตลาดโดยให้เร่งนำเสนอต่อที่คณะกรรมการฯ พิจารณาในการประชุมคราวหน้า เป็นการปรับกลยุทธ์การทำงานต่อเนื่องจากฤดูกาลผลิตปีที่แล้วเพื่อรับมือกับผลกระทบจากโควิด-19 ปีที่ 2 และรับมือกับผลผลิตผลไม้ที่เพิ่มขึ้นในปีนี้กว่า 24% จากรายงานการคาดการณ์ของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.)

 

ทั้งนี้ ที่ประชุมฟรุตบอร์ดได้เห็นชอบโครงการพัฒนาและแก้ไขปัญหาผลไม้ ปี 2564 งบประมาณ 492 ล้านบาท และมอบหมายกรมการค้าภายใน นำเสนอคณะกรรมการบริหารกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรพิจารณาให้ความเห็นชอบในต้นเดือนกุมภาพันธ์ต่อไป

 

สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจกรรมตามโครงการฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย กิจกรรมสนับสนุนด้าน (1) การกระจายผลผลิตออกนอกแหล่งผลิตและการเชื่อมโยงการจำหน่ายช่วงผลผลิตออกสู่ตลาดมาก (2) การเพิ่มช่องการจำหน่าย (3) การรวบรวมรับซื้อผลผลิตเพื่อส่งออก (4) การจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์และรณรงค์การบริโภคผลไม้” ซึ่งเป็นมาตรการรองรับสำหรับการบริหารจัดการรวมทั้งปัญหาผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ระลอกใหม่ โดยเน้นการแก้ไขปัญหาเชิงรุกล่วงหน้าอาทิ ปัญหาผลผลิตออกมาพร้อมกันในช่วงต้นฤดูร้อน ปัญหาโลจิสติกส์การขนส่งผลไม้ทั้งทางบก ทางอากาศ และทางเรือจากค่าบริการที่เพิ่มขึ้น ตู้คอนเทนเนอร์ที่ขาดแคลน ปัญหาแรงงาน และประเด็นความเชื่อมั่นของตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะตลาดจีนกรณีการปนเปื้อนโควิด-19 ของสินค้าเกษตรที่จีนนำเข้าจากบางประเทศ จึงต้องเพิ่มมาตรการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability)

 

รวมถึงมาตรการเพิ่มการสื่อสารเชิงรุกเพื่อสร้างความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมกับประชาสัมพันธ์และทำการตลาดล่วงหน้าออนไลน์และออฟไลน์ นอกจากนี้ ยังให้ส่งเสริมการแปรรูปผลไม้เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยสนับสนุนให้จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมผลไม้ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้และภาคตะวันออก โดยประสานงานกับศูนย์ AIC ทุกจังหวัด และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ร่วมขับเคลื่อน

 

นอกจากนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบเพิ่มจำนวนครัวเรือนเป้าหมายเกษตรกรในโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2563 จาก 202,013 ครัวเรือน เป็น 202,173 ครัวเรือน โดยเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายดังกล่าวภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณเดิมที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไว้เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2563 วงเงินงบประมาณ 3,440,049,735 บาท และขยายระยะเวลาการดำเนินงานโครงการฯ จากเดิม 31 มกราคม 2564 เป็นสิ้นสุดวันที่ 30 เมษายน 2564 เพื่อให้การดำเนินการเยียวยาชาวสวนลำไยในส่วนที่ยังตกหล่นครบถ้วนถูกต้องเป็นธรรมโดยจะนำเสนอ ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบ ต่อไป ส่วนการโอนเงินเยียวยาตามมติครม.25สิงหาคมนั้นธกส.รายงานว่าโอนเสร็จแล้วกว่า99%เหลือเฉพาะเกษตรกรที่ติดขัดปัญหาไม่กี่ร้อยรายจาก2แสนราย

 

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมยังรับทราบรายงานโครงการกระจายผลไม้ Pre-order โดย ประธานคณะอนุกรรมการ E-commerce ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายกฤชฐา โภคาสถิต) และการนำเสนอแผนงานของสมาคมทุเรียนไทยในการส่งเสริมการส่งออกทุเรียนไทยในช่วงการระบาดของโควิด-19 พร้อมทั้งจัดทำคลิปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการบริโภคทุเรียนไทย “กินทุเรียนไทย มั่นใจปลอดไวรัส covid-19” เป็นภาษาจีน-ไทย-อังกฤษ โดยขอให้ช่วยเผยแพร่ในตลาดเป้าหมายด้วย

 

สำหรับแนวทางการบริหารจัดการผลไม้ช่วงวิกฤตการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมานั้น ในประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ ครั้งที่ 1/2564 ได้มีมติเห็นชอบแนวทางบริหารจัดการผลไม้ ปี 2564-2566 ซึ่งเป็นแนวทางบริหารจัดการผลไม้ในระยะปานกลาง (3 ปี) ที่เน้นความสอดคล้องตามยุคสมัยปัจจุบันที่มีเทคโนโลยีและเครื่องมือสื่อสารที่อำนวยความสะดวกมากขึ้นในยุค 4.0 ตลอดจนให้เข้ากับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 โดยเน้นช่องทางการซื้อขายออนไลน์ซึ่งมีประสิทธิภาพในการกระจายได้สูง เกษตรกรมีการปรับเปลี่ยนวิถีการขายแบบใหม่ ไม่ต้องพึ่งพ่อค้าคนกลาง

 

โดยให้คณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาผลิตผลการเกษตรระดับจังหวัด (คพจ.) ทุกจังหวัด ส่งเสริมและสนับสนุนอำนวยความสะดวกเกษตรกรในพื้นที่ให้สามารถกระจายผลผลิตด้วยวิธีการค้าออนไลน์ให้มากขึ้นต่อไป เน้นการป้องกันตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทาง การเก็บเกี่ยวและการจัดการในสวนผลไม้จนถึงการขนส่งไปยังผู้บริโภคให้มีการปฏิบัติที่ปลอดภัย