รีเซต

กิ๊กหึงแฟนเก่า บุกชักปืนขู่ถึงร้านขายของ คนวิ่งหนีตายอลหม่าน ตร.ยึดปืน ปรับ 1 พัน

กิ๊กหึงแฟนเก่า บุกชักปืนขู่ถึงร้านขายของ คนวิ่งหนีตายอลหม่าน ตร.ยึดปืน ปรับ 1 พัน
มติชน
11 ธันวาคม 2565 ( 22:45 )
47
กิ๊กหึงแฟนเก่า บุกชักปืนขู่ถึงร้านขายของ คนวิ่งหนีตายอลหม่าน ตร.ยึดปืน ปรับ 1 พัน

หนุ่มหึงแฟนเก่า บุกชักปืนขู่ถึงหน้าร้านขายทุเรียน คนวิ่งหนีตายอลหม่าน ตำรวจคุมตัวมาสอบพบเป็นปืนบีบีกัน ดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 11 ธันวาคม ร.ต.อ.ทองดาว โคตรหลักคำ ร้อยเวร สภ.เมืองระยอง ได้รับแจ้งจาก นางนันทา อายุ 58 ปี เจ้าของแผงขายทุเรียนตลาดกลางผลไม้ตะพง ว่า นายพงศธร อายุ 21 ปี พนักงานในร้าน ถูก นายสิทธิชัย อายุ 19 ปี บุกมาชักปืนข่มขู่ที่หน้าร้าน ทำให้คนในร้านวิ่งหนีกันอลหม่าน เพราะกลัวจะถูกยิง โชคดีที่ไม่มีการยิงเกิดขึ้น พร้อมกันนี้มีคลิปขณะเกิดเหตุมาเป็นหลักฐาน

 

ภาพในคลิปเผยให้เห็นนายสิทธิชัยเดินมาที่หน้าร้าน พร้อมกับเด็กผู้หญิงที่เรียกให้หยุด ก่อนจะเดินมาหยุดที่หน้าร้าน แล้วตะโกนด่านายพงศธรว่า “เลิกยุงกับเมียกูหรือยัง” พร้อมกับชักอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเล็งเข้ามาในร้าน ทำให้คนในร้านวิ่งหนีหาที่หลบกระสุน ก่อนที่นายสิทธิชัยจะเดินกลับไป โดยไม่มีการยิง

 

นางนันทาให้การว่า เหตุเกิดขึ้นช่วงบ่ายวันนี้ ขณะตนกำลังขายของอยู่ในร้านโดยอยู่กันหลายคน จู่ๆ นายสิทธิชัยก็เดินมาด่านายพงศธรให้เลิกยุ่งกับเมียของตัวเอง ซึ่งเป็นอดีตภรรยาของนายพงศธร คนในร้านได้บอกให้นายพงศธรเลิกยุ่ง เป็นจังหวะเดียวกับนายสิทธิขัยที่กำลังโมโห ชักปืนพกตรงเอวออกมา แล้วก็ยกปืนเล็งเข้ามาในร้าน ทำให้ทุกคนต่างตกใจ

 

นางนันทากล่าวว่า คนในร้านบอกว่าใจเย็นๆ แต่นายสิทธิชัยก็ไม่ยอมหยุด ยังเล็งปลายกระบอกปืนเข้าไปในร้าน ทำให้ตนและคนในร้านพากันวิ่งหลบกระสุนกันด้วยความกลัว แต่แล้วนายสิทธิชัยยังไม่หยุดวิ่งตาม ก่อนจะหยุด และก็ไม่ได้ลั่นไกยิงออกมา ทุกคนต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นับว่าเป็นการกระทำที่น่ากลัว ถ้าเกิดยิงเข้ามาจริงอะไรจะเกิดขึ้น จึงเข้ามาแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ เพื่อจะได้ไม่ก่อเรื่องอีก

 

หลังรับแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อไปที่นายสิทธิชัย ต่อมา นายสิทธิชัย พร้อมด้วย น.ส.นวรัตน์ อายุ 26 ปี ต้นเหตุของความหึงหวง ได้เดินทางโดยรถยนต์มาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.เมืองระยอง จึงคุมตัวมาทำการสอบสวน พร้อมค้นในรถยนต์ พบอาวุธปืนที่ใข้ก่อเหตุจึงยึดมาตรวจสอบ พบว่าเป็นอาวุธปืนบีบีกัน

 

นายสิทธิชัยยอมรับว่าก่อเหตุจริง เพราะความโมโห จึงเข้าไปต่อว่า ก่อนจะชักปืนขู่ ซึ่งเป็นปืนบีบีกัน ยอมรับผิด ก่อนเกิดเหตุ น.ส.นวรัตน์เป็นคนขับรถพามาส่งจุดเกิดเหตุ

 

เจ้าหน้าที่จึงดำเนินคดีกับนายสิทธิชัย และ น.ส.นวรัตน์ ในข้อหาร่วมกันทำให้ผู้อื่นตกใจกลัวโดยการขู่เข็ญ ก่อนเปรียบเทียบปรับทั้งสองคน คนละ 1,000 บาท และห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับอีกฝ่าย ก่อนจะปล่อยตัวไป พร้อมยึดอาวุธปืนบีบีกันที่ใช้ก่อเหตุไว้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง