วอลโว่เผยโฉมรถบรรทุกดินพลังงานไฮโดรเจนคันแรกของโลก

แม้ว่าวอลโว่ (Volvo) จะเป็นแบรนด์ที่คนไทยนึกถึงรถยนต์นั่งส่วนบุคคล หรือรถบรรทุกสำหรับคนที่คุ้นเคย แต่วอลโว่ (Volvo) ยังเป็นแบรนด์รถที่ใช้สำหรับงานอุตสาหกรรมและการก่อสร้างในนามของบริษัท วอลโว คอนสตรัคชั่น อีควิปเมนต์ (Volvo Construction Equipment: Volvo CE) ด้วยเช่นกัน โดยมีรถสำหรับอุตสาหกรรมทุกประเภท เช่นรถตักดิน รถทำถนน รถบรรทุกในงานก่อสร้าง และรถบรรทุกดิน และด้วยวิสัยทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อมของ Volvo CE ทำให้บริษัทเปิดตัวรถบรรทุกดินพลังงานไฮโดรเจนเมื่อ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา 

โครงการวิจัยและสร้างต้นแบบรถบรรทุกดินพลังงานไฮโดรเจน (Hydrogen-fuel Articulated Hauler) เกิดขึ้นในปี 2018 โดยใช้หลักการพื้นฐานของเซลล์เชื้อเพลิงไฟฟ้าเพื่อการขับเคลื่อนรถบรรทุกดินที่มีชื่อว่า Volvo HX04 โดยการนำไฮโดรเจนเข้าไปทำปฏิกิริยาเคมีกับก๊าซออกซิเจนเพื่อสร้างกระแสไฟฟ้า ซึ่งจะได้ไอน้ำเป็นส่วนเกินจากปฏิกิริยานี้ ไอน้ำจะถูกขับออกมาจากท่อไอเสียเช่นเดียวกับรถทั่วไป แต่แน่นอนว่าไอน้ำนั้นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างมากที่สุด

Volvo HX04 จะใช้ไฮเดรเจนอย่างน้อย 12 กิโลกรัม เพื่อป้อนเข้าสู่ตัวเครื่องในการสร้างกระแสไฟฟ้าให้เพียงพอต่อระยะเวลาการทำงานประมาณ 4 ชั่วโมง โดยเมื่อเชื้อเพลิงหมดจะต้องใช้เวลาประมาณ 7 นาที 30 วินาที ในการเติมไฮโดรเจนเข้าไปเพื่อให้รถบรรทุกดินคันนี้ทำงานอีกครั้ง

แคโรไลนา ดิเอซ เฟอร์เรอร์ (Carolina Diez Ferrer) หัวหน้าโครงการพัฒนาวิศวกรรมขั้นสูงของวอลโว่ซีอี (Volvo CE) รู้สึกภาคภูมิใจและสุขใจกับการพัฒนา Volvo HX04 ขึ้นมาในฐานะรถบรรทุกดินพลังงานไฮโดรเจนคันแรกของโลก ตามรอยประวัติศาสตร์ของค่ายรถเมื่อ 55 ปี ก่อนที่เป็นผู้ให้กำเนิดรถบรรทุกดิน (Articulated Hauler) คันแรกของโลกเช่นกัน

ตัวถังรถบรรทุกดินและส่วนประกอบต่าง ๆ อยู่ระหว่างการพัฒนาในตอนนี้ที่เมืองบราออส (Braås) ประเทศสวีเดน ซึ่งเป็นฐานการผลิตหลักของรถบรรทุกดินทุกรุ่นของวอลโว่ (Volvo) มาตั้งแต่ปี 1966 ในขณะที่ตัวระบบเซลล์เชื้อเพลิงไฟฟ้าที่จะนำมาติดตั้งในรถ Volvo HX04 จะถูกพัฒนาและทดสอบที่ห้องปฏิบัติการในศูนย์เทคโนโลยีของวอลโว่ในเมืองเอสกิลสตูนา (Eskilstuna) ต่อไป

วอลโวซีอี (Volvo CE) จะเริ่มทำการตลาดรวมถึงวางแผนการผลิตได้ภายในปี 2025 โดยความพยายามในครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญของ Volvo CE และวอลโว่ (Volvo) ที่ต้องการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากรถของบริษัทให้เหลือศูนย์ภายในปี 2040 เพื่อให้การก่อสร้างต่าง ๆ ในอนาคตเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

ที่มาข้อมูล Electrek

ที่มารูปภาพ Volvo CE