โลกเผชิญความเสี่ยงใหม่ BKIปรับกลยุทธ์รับโอกาส

ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI กล่าวถึงแผนงานในปี 2565 ว่า ภายใต้การเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงทั้งด้านสภาพอากาศและวิถีชีวิตหลังโควิด-19 การเข้าสู่ยุคดิจิทัลทำให้บริษัทต้องวางกลยุทธ์เพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่ต่างไปจากเดิม

“การเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศทำให้ภัยธรรมชาติมีความรุนแรงมากขึ้น ถี่ขึ้นทั้งน้ำท่วม ไฟไหม ซึ่งแม้แต่ประเทศไทยที่ไม่เคยมีความเสี่ยงจากภัยใหญ่ แต่จากน้ำท่วมครั้งใหญ่เกิดในปี 2554 ก็สะท้อนให้เห็นว่าทั่วโลกกำลังเผชิญหน้ากับความเสี่ยงที่มากขึ้น และยังรวมถึงการเกิดโรคระบาดใหม่”

ขณะที่การมาของเทคโนโลยี ทำให้การใช้ชีวิตของมนุษย์เปลี่ยนไป สะดวกรวดเร็ว จากการนำระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาใช้ ช่วยให้การดำเนินชีวิตสะดวกมากขึ้น ซึ่งจะเริ่มเห็นว่ามีบางประเทศได้ทดลองรถยนต์ไร้คนขับแล้ว ซึ่ง

หากนำมาใช้กระบวนการในการประเมินความเสี่ยงก็จะเปลี่ยนไป กล่าวคือความเสี่ยงเกิดจากตัวระบบไม่ใช่คนขับรถ

ดร.อภิสิทธิ์ การเปลี่ยนแปลงที่ต่างไปจากเดิม ทำให้การรับประกันภัย ผลิตภัณฑ์ประกันภัย ความคุ้มครอง ความเสี่ยงต่างๆ ต้องปรับให้สอดคล้องกับสิ่งใหม่ที่เกิดขึ้น และด้วยจุดนี้ทำให้ BKIเดินหน้าพัฒนาระบบการทำงานด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการดำเนินธุรกิจ เพอิ่มโอกาสทางการแข่งขัน ที่เร็วขึ้น สะดวกขึ้น ขณะเดียวกันก็ทำให้ต้นทุนต่ำลงได้ในอนาคต

เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยี

ในปี 2565 BKI ยังคงเน้นการนำเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ๆ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยเพื่อส่งเสริมคุณภาพการให้บริการที่ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้าและคู่ค้า ตลอดจนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และลดต้นทุนในการดำเนินงานของบริษัทฯ ดังนี้ การดำเนินโครงการ Core Business System (CBS) ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยร่วมมือกับบริษัท Sapiens International Corporatio) จากประเทศอิสราเอล ซึ่งเป็นบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ประกันภัยชั้นนำระดับโลกที่ช่วยออกแบบและพัฒนาระบบงานหลักของบริษัทฯ ทดแทนระบบเดิม

ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และออกแบบอย่างเป็นสากล ครอบคลุมการทำงานของหน่วยงานหลักทั้งกระบวนการรับประกันภัยจนถึงการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน (End-to-end Solutions) รวมถึงระบบการรับประกันภัยต่อซึ่งจะช่วยให้การดำเนินงานของบริษัท มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การสร้าง Cognitive Insurance Platform ด้วยการนำเทคโนโลยี AI มาวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าผ่านระบบ Digital Service ต่างๆ โดยในปีนี้มีแผนงานพัฒนา Online Website ใหม่  รวมถึงพัฒนาระบบการขายประกันออนไลน์ในรูปแบบ Personalize Insurance โดยใช้เครื่องมือ Google Cloud Technology เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการข้อมูล และวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าเพื่อเสนอขายประกันที่ตอบโจทย์และตรงกับ Lifestyle ของลูกค้าแต่ละราย

รวมถึงการขยายพันธมิตรทางธุรกิจกับคู่ค้ารายใหม่ๆ โดยเชื่อมต่อระบบกับคู่ค้าด้วยเทคโนโลยี API ซึ่งจะช่วยให้บริษัทฯ สามารถขยายช่องทางการสื่อสารที่ให้ความสำคัญของการประกันภัยไปสู่กลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นผ่านเครือข่ายของพันธมิตร

มั่นใจเติบโตตามเป้า

ดร.อภิสิทธิ์  กล่าวต่อไปว่า BKI ตั้งเป้าหมายเบี้ยประกันภัยรับรวมเติบโตร้อยละ 5.0 ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตที่สอดคล้องกับปัจจัยท้าทายต่าง ๆ ในปัจจุบัน ในส่วนของผลการดำเนินงานในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถเติบโตได้สูงกว่าเป้าหมาย ทำให้มั่นใจว่าปีนี้ BKIจะบรรลุเป้าหมายเบี้ยประกันภัยปีนี้ได้อย่างแน่นอน