รีเซต

'แรมโบ้' อ่านแถลงการณ์ลาออก ป้องกันกระทบภาพลักษณ์ รบ.ตู่ ยืนหยัดต่อสู้เพื่อประโยชน์ชาติ

'แรมโบ้' อ่านแถลงการณ์ลาออก ป้องกันกระทบภาพลักษณ์ รบ.ตู่ ยืนหยัดต่อสู้เพื่อประโยชน์ชาติ
มติชน
18 เมษายน 2565 ( 16:58 )
134
'แรมโบ้' อ่านแถลงการณ์ลาออก ป้องกันกระทบภาพลักษณ์ รบ.ตู่ ยืนหยัดต่อสู้เพื่อประโยชน์ชาติ

ข่าววันนี้ 18 เมษายน ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี อ่านแถลงการณ์ลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ว่าตนได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว โดยมีผลในวันที่ 19 เมษายน 2565 เป็นต้นไป เหตุผลที่ตัดสินใจลาออกเพราะมีความสำนึกรับผิดชอบต่อความรู้สึกของประชาชนสืบเนื่องจากที่ปรากฏเป็นข่าวกรณีคลิปเสียงพูดโทรศัพท์ระหว่างตนกับ น.ส.จุรีพร สินธุไพร ข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ และมีการตั้งข้อกล่าวหาเป็นประเด็นทางการเมืองที่ควรจะได้มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้เป็นที่ประจักษ์ โดยใช้เวลาตามสมควรในการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว และเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจของตน เพื่อให้เป็นตัวอย่างและบรรทัดฐานจริยธรรมทางการเมือง

 

นายเสกสกลกล่าวว่า ตนเข้ารับตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีเพราะเห็นในความเป็นผู้นำที่ดีที่มีความเหมาะสมกับสถานการณ์บ้านเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีความชัดเจน ตั้งใจ มุ่งมั่นทำงานด้วยความทุ่มเทและเสียสละ ตนจึงอาสาเข้ามาเป็นฟันเฟืองเล็กๆ ชิ้นหนึ่งในรัฐบาล ช่วยแบ่งเบาภาระเท่าที่จะทำได้ตามกำลังความสามารถ และได้ทำงานอย่างเต็มที่มาตลอด 3 ปี

 

“แต่เมื่อมีข่าวดังกล่าวอาจกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อถือของทีมงานของนายกฯ จึงคิดว่าไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาลและไม่ประสงค์จะเป็นฟันเฟืองที่ชำรุด ที่ทำให้เครื่องยนต์กลไกในการขับเคลื่อนของรัฐบาลต้องมีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยสักเพียงใดก็ตาม แม้จะยังไม่ได้พิสูจน์ข้อเท็จจริงก็ควรแสดงความรับผิดชอบ

 

“การลาออกจากตำแหน่งครั้งนี้เพื่อไปพิสูจน์ความจริงตามกระบวนการยุติธรรมให้ปรากฏข้อเท็จจริง โดยไม่ต้องอาศัยตำแหน่งของตัวเอง รวมทั้งความสัมพันธ์กับผู้บังคับบัญชามาช่วยปกป้องให้พ้นผิด” นายเสกสกลกล่าว

 

 

นายเสกสกลกล่าวว่า ในส่วนภารกิจการแก้ไขปัญหาราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลให้ไม่เกิน 80 บาทนั้น ตนได้ดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมาย และมีมติตามคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนฯที่ตนเป็นประธานและได้ข้อสรุปแล้ว เมื่อคณะอนุกรรมการนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ ที่มี นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานให้พิจารณาเห็นชอบต่อไป มั่นใจว่าหากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ดำเนินการตามแนวทางมติของคณะอนุกรรมการฯจะสามารถควบคุมราคาสลากได้ไม่เกิน 80 บาทอย่างแน่นอน ถือว่าได้ทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว และตนได้ลาออกจากทุกตำแหน่งในการแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อมิให้เกิดข้อคอรหาเกี่ยวกับผลประโยชน์ใดๆ ในโควต้าสลากกินแบ่งรัฐบาล

 

นายเสกสกลกล่าวต่อว่า ส่วนการดำเนินคดีที่ได้แจ้งความไว้ที่ สน.ดุสิต นั้น เพื่อนำบุคคลที่เกี่ยวข้องในการอัดคลิปเสียงมาดำเนินคดีทางกฎหมายให้ได้ถึงที่สุด ในส่วนบุคคลที่ไม่ประสงค์ดี และหวังทำลายชื่อเสียง บิดเบือนข้อเท็จจริงให้เกิดความเสียหาย ตนจะขอใช้สิทธิส่วนตัวดำเนินคดีกับบุคคลเหล่านั้นตามกฎหมายเพื่อมิให้ใช้วิธีการและพฤติกรรมเช่นนี้ไปทำลายชื่อเสียงบุคคลอื่นอีก

 

“ถึงแม้ผมจะลาออกจากตำแหน่งแล้ว ยังตั้งใจที่จะทำหน้าที่พลเมืองผู้มีความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง ในการต่อสู้กับบุคคล หรือขบวนการของบุคคลที่มีเจตนาร้ายต่อประเทศโดยไม่ลดละ ไม่ย่อหย่อน ขอกราบขอบคุณนายกรัฐมนตรีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เมตตาให้โอกาสตนมาทำงานกับรัฐบาล ทำคุณงามความดีเพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน ชีวิตผมผ่านประสบการณ์ในการต่อสู้ทางการเมืองมาหลายบทบาท หลายฐานะ ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย ทำให้ตระหนักรู้ได้ว่าอะไรดี อะไรร้าย ฝ่ายไหนดี ฝ่ายไหนร้าย ต่อประเทศไทยและคนไทย

 

“ผมจะยืนหยัดต่อสู้เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน โดยมีอุดมการณ์ยึดมั่นและจุดยืนในการปกป้อง 3 สถาบันหลัก ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์อย่างมั่นคงชัดเจนด้วยชีวิต อย่างไรก็ตาม ตลอดเวลาการทำหน้าที่มายาวนานในทางการเมืองกว่า 30 ปี ผมไม่เคยคิดใช้ตำแหน่งหน้าที่กระทำการใดที่เป็นการทุจริตคิดมิชอบ และไม่ได้กระทำการใดที่ผิดต่อกฎหมายบ้านเมือง ขอยืนยันด้วยความบริสุทธิ์ใจอย่างแท้จริง” นายเสกสกลกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง