SFLEXครึ่งปีหลังเข้าไฮซีซัน ออเดอร์จ่อกำลังผลิตใหม่ดัน

#SFLEX #ทันหุ้น – SFLEX แย้มครึ่งปีหลังเข้าไฮซีซัน ออเดอร์ลูกค้าทั้งไทยและต่างประเทศไหลเข้าต่อเนื่อง จ่อปิดดีลลงทุนในเวียดนามไตรมาส 3/2565 นี้ รวมถึงโรงงานแห่งใหม่ก่อสร้างแล้วเสร็จ ส่วนผลงานไตรมาส 2/2565 คาดดีกว่าไตรมาสแรก แม้ต้นทุนพลาสติกยังทรงตัวสูง
ดร.สมโภชน์ วัลยะเสวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์เฟล็กซ์ จำกัด ( มหาชน) หรือ SFLEX ผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนชั้นนำในประเทศ เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 จะเติบโตกว่าครึ่งปีแรกของปีนี้ เนื่องจากเป็นไฮซีซันของธุรกิจ รวมถึงโรงงานแห่งใหม่ก่อสร้างแล้วเสร็จ ทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 260-270 ล้านเมตรต่อปี จากปัจจุบันที่ 180 ล้านเมตรต่อปี
เบื้องต้นคาดว่าในช่วงไตรมาส 3/2565การผลิตและส่งมอบออเดอร์ให้กับลูกค้าได้เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยรองรับคำสั่งซื้อใหม่ๆ จากการขยายตลาดบรรจุภัณฑ์เกรดพรีเมียม เน้นงานกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ให้มาร์จิ้นสูง โดยตั้งเป้าปรับสัดส่วนรายได้บรรจุภัณฑ์อาหาร (FOOD) นอกจากนี้ จากการรวมโรงงานผลิตนั้นยังทำให้เกิด Economy of Scale มากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าการร่วมทุนจัดตั้งบริษัทร่วมกับบริษัท ไทยยูเนี่ยน กราฟฟิกส์ จำกัด (TUG) เพื่อสร้างโรงงานผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนและมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์สำหรับอาหารเป็นหลักนั้น ปัจจุบันบริษัทได้รับออเดอร์รวมถึงรับงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D) ให้กับลูกค้าเข้ามาบ้างแล้ว ในส่วนของการก่อสร้างโรงงานผลิตนั้น คาfว่าจะแล้วเสร็จและเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ภายในช่วงไตรมาส 4/2565นี้ จะเข้ามาช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานในปรับตัวดีขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้อีกด้วย
*ปิดดีลลงทุนเวียดนาม
ขณะที่การทำ Due Diligence ลงทุนในประเทศเวียดนามนั้น มองว่าการลงทุนอาจเป็นการเข้าไปทำร่วมลงทุนกับบริษัทที่ทำเกี่ยวเนื่องกับการผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์รายใหญ่ โดย SFLEX จะนำเอาองค์ความรู้และความชำนาญในด้าน Flexible Packaging รวมถึงฐานลูกค้ารายใหญ่ที่มีการขยายตลาดในเวียดนามเข้าไปเป็นตัวสร้าง Synergy ในครั้งนี้ ขณะนี้อยู่ในช่วงขั้นสุดท้ายของการเจรจาเรื่องราคา เพราะที่ผ่านมาค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวสูงกว่า 10% ทำให้มูลค่าปรับตัวขึ้น ทั้งนี้หากว่าทางคู่ค้าช่วยปรับราคาลง 5%ก็อาจทำให้ดีลจบได้เร็วขึ้น และคาดว่าจะสร้างการรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 3/2565 เป็นต้นไป
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุถึง SFLEX ว่า ผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 1/2565 การฟื้นตัวยังไม่รวดเร็วในไตรมาส 2/2565 ตามที่เคยประเมิน เพราะยังถูกกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบที่อยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง และมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการย้ายโรงงานต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน ปัจจุบันโรงงานแห่งใหม่ก่อสร้างแล้วเสร็จและอยู่ระหว่างย้ายเครื่องจักรและเครื่องเป่าฟิล์มไปอยู่รวมกันในโรงงานแห่งใหม่ เพื่อให้เกิด Economy of Scale
ทั้งนี้คาดว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส 3/2565หากราคาน้ำมันไม่ปรับขึ้นอย่างรุนแรงไปกว่านี้ เพราะจะเริ่มเห็นผลบวกจากการทยอยปรับเพิ่มราคาขาย ประกอบกับโรงงานแห่งใหม่พร้อมผลิตเชิงพาณิชย์ จะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตขึ้น 40-50% เป็น 260-270 ล้านเมตรต่อปี จาก 180 ล้านเมตร
*แนะซื้อลงทุนเป้า 4.80 บ.
ขณะเดียวกันบริษัทกลับมาเดินหน้าเจรจากับผู้ผลิต Rigid Packaging ในเวียดนามอีกครั้ง ทันทีที่สถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาด้านราคาและสัดส่วนการเข้าลงทุนพร้อมกับพันธมิตร คาดว่า SFLEX น่าจะเข้าลงทุนในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 30%คาดการเจรจาจะแล้วเสร็จและเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของบริษัทในเวียดนามได้ในไตรมาส 3/2565 บริษัทดังกล่าวเป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์กระดาษที่มีคุณภาพสูง มีฐานลูกค้าใกล้เคียงกับ SFLEX แต่สินค้าไม่ซ้ำกัน
ตลาดบรรจุภัณฑ์ในเวียดนามมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ในอนาคต SFLEX อาจนำการผลิต Flexible Packaging เข้าไปเสริม เป็นการขยายฐานตลาดของ SFLEX สู่ตลาด CLMV ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง จากปัจจัยที่กล่าวมาทำให้ทางฝ่ายได้ปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นเป็น 4.80 บาท จากเดิม 4.50 บาท พร้อมกับปรับประมาณการกำไรปี 2565-2567 ขึ้น 7.3%, 9.7% และ 12.8%รวมถึงปรับเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นขึ้น ตามสัดส่วนสินค้านวัตกรรมที่สูงขึ้น และเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการร่วมทุนกับ TU กลางปี 2566 แนะนำทยอย "ซื้อ" ลงทุน