จนท. กัมพูชาชี้ 'วัคซีนโควิด-19' ของจีน 'ปลอดภัย-มีประสิทธิภาพ'
พนมเปญ, 4 พ.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันอังคาร (3 พ.ค.) ออร์ แวนดิน รัฐมนตรีและโฆษกกระทรวงสาธารณสุขกัมพูชา ระบุว่าวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ของซิโนแวคและซิโนฟาร์มจากจีน มีความปลอดภัยและประสิทธิภาพ รวมถึงมีความสำคัญต่อการปกป้องชีวิตของผู้คน
แวนดินระบุว่าปัจจุบันกัมพูชาใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของซิโนแวค ซิโนฟาร์ม แอสตราเซเนกา จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ไฟเซอร์ และโมเดอร์นา โดยวัคซีนเหล่านี้มีความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และคุณภาพดี เนื่องจากอยู่ในบัญชีวัคซีนสำหรับใช้งานกรณีฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก (WHO)
อนึ่ง กัมพูชาเริ่มแผนฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ทั่วประเทศตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2021 โดยมีจีนเป็นผู้จัดหาวัคซีนรายหลัก และใช้งานวัคซีนของซิโนแวคและซิโนฟาร์มเป็นส่วนใหญ่
แวนดินระบุว่าวัคซีนเป็นเครื่องมือทรงประสิทธิภาพในการปกป้องชีวิตของผู้คนจากโรคโควิด-19 พร้อมเรียกร้องผู้มีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์เข้ารับวัคซีนโดสกระตุ้น (โดสสามหรือโดสสี่) เพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
ลี ไอแลน ผู้แทนองค์การฯ ประจำกัมพูชา ระบุว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ช่วยชีวิตผู้คน ปกป้องสุขภาพ และช่วยให้อายุยืนยาว โดยชาวกัมพูชาได้รับการปกป้องอย่างดีจากการฉีดวัคซีน ทั้งการฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่อง และบริการสร้างภูมิคุ้มกันตามปกติของประเทศ
ปัจจุบันกัมพูชามีประชาชนฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างน้อยหนึ่งโดสเกือบ 15 ล้านคน หรือร้อยละ 93.4 ของประชากรทั้งหมด 16 ล้านคน และมีประชาชนฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้ว 14.2 ล้านคน หรือร้อยละ 88.8
ด้วยอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่สูง ทำให้กัมพูชาสามารถฟื้นฟูกิจกรรมทางสังคมและเศรษฐกิจทั้งหมด และเปิดประเทศต้อนรับนักเดินทางที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสโดยไม่ต้องกักตัว ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีก่อน
คิน เพีย อธิบดีสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สังกัดราชบัณฑิตยสถานแห่งกัมพูชา ระบุว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้ปกป้องชีวิตผู้คน ทำให้ระบบสาธารณสุขมีเสถียรภาพ และช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลตัดสินใจถูกต้องที่เลือกจีนเป็นผู้จัดหาเชิงกลยุทธ์ด้านวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จึงทำให้กัมพูชามีวัคซีนเพียงพอสำหรับประชาชน
ทั้งนี้ กัมพูชารายงานการตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มเพียง 1 ราย และไม่มีรายงานผู้ป่วยเสียชีวิตในวันพุธ (4 พ.ค.) ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 136,258 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 3,056 ราย