“ราคาทองแดง” พุ่งหลังเหมืองหยุดผลิต

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาทองแดงปรับขึ้นมากถึง 0.9% แตะระดับ 11,294.5 ดอลลาร์ต่อตัน ในตลาดลอนดอนเมทัลเอ็กซ์เชนจ์ (LME) ขณะที่สัญญาฟิวเจอร์สทองแดงในตลาด Comex ของสหรัฐพุ่งขึ้นมากสุด 1.6% กระแสการเร่งส่งทองแดงไปยังสหรัฐ ก่อนที่อาจมีการเก็บภาษีนำเข้ารอบใหม่ อาจยิ่งทำให้ตลาดในภูมิภาคอื่นตึงตัวมากขึ้น ขณะที่บริษัทเหมืองแร่ยังคงผลิตได้ไม่ทันความต้องการ
ทั้งนี้ แรงซื้อทองแดงที่เพิ่มขึ้นเกิดขึ้นหลังการประชุมอุตสาหกรรมทองแดงครั้งใหญ่ในนครเซี่ยงไฮ้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนสัญญาณความตึงตัวของอุปทาน หลังปีนี้เกิดเหตุเหมืองหยุดผลิตโดยไม่คาดคิดหลายครั้ง ผู้ถลุงแร่กำลังอยู่ระหว่างการเจรจายากลำบากกับผู้ผลิตเหมืองเกี่ยวกับปริมาณวัตถุดิบประจำปี ขณะที่ราคาพรีเมียมรายปีพุ่งขึ้น และบริษัทค้าสินค้าโภคภัณฑ์รายใหญ่ Mercuria Energy Group Ltd. เตือนว่าปีหน้าตลาดอาจเผชิญภาวะขาดแคลนโลหะ
นอกจากนี้ นักลงทุนจำนวนมากมองบวกกับทองแดงมานาน เนื่องจากบทบาทสำคัญในกระบวนการใช้ไฟฟ้าและการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด ทำให้ราคาทองแดงใน LME เพิ่มขึ้นเกือบ 30% นับตั้งแต่ต้นปี การปรับขึ้นของราคาบนตลาด Comex ในวันจันทร์ผลักให้ราคาขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม ก่อนที่ราคาจะปรับลงหลังประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ เลื่อนการตัดสินใจเรื่องภาษีโลหะไปเป็นปี 2569
ขณะเดียวกัน แรงซื้อกำลังก่อตัวอีกครั้งจากผู้ค้าทองแดงที่เร่งนำส่งสินค้าเข้าสหรัฐ ซึ่งราคายังสูงกว่าตลาดลอนดอน เนื่องจากคาดว่าทรัมป์จะบังคับใช้ภาษีนำเข้าในปีหน้า คอสตาส บินทัส หัวหน้าฝ่ายโลหะของ Mercuria เปิดเผยว่า อาจมีการขนส่งทองแดงกว่า 500,000 ตัน เข้าสหรัฐในไตรมาสแรกของปี 2569
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
