รัฐบาลปลื้ม ตีปี๊บ! ผลงานปราบยาเสพติดอื้อ โชว์ยึดยาบ้า-ยาไอซ์ เป็นสิบๆตัน
รัฐบาล ตีปี๊บ ผลงานปราบยาเสพติดข้ามชาติ อื้อ! ชี้ ทำงานร่วมกันของหลายภาคส่วน จ่อถก 6 ชาติลุ่มน้ำโขง - UNODC ในวันที่ 5 กรกฎาคม นี้
เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมามีการรายงานข่าวการจับกุมผู้ต้องหาขบวนการค้ายาเสพติดเครือข่ายข้ามพรมแดนและข้ามชาติในหลายกรณี แสดงให้เห็นถึงการดำเนินการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเป็นการทำงานร่วมกันของหลายภาคส่วนประกอบด้วย
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองทัพไทย ตำรวจปรามปรามยาเสพติด กรมศุลกากร เครือข่ายภาคประชาชน และหน่วยงานต่างประเทศ เป็นต้น โดยสถิติการตรวจยึด นับตั้งแต่ปี 2562 มีปริมาณมากขึ้น โดยเฉพาะยาไอซ์ และเฮโรอีน ที่ถูกนำเข้าเพื่อส่งผ่านไปยังต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฮ่องกง เป็นต้น ถือเป็นปัญหาร่วมกันของประเทศในภูมิภาค
ทั้งนี้รัฐบาลโดยสำนักงาน ป.ป.ส ได้ประสานความร่วมมือกับประเทศลุ่มน้ำโขง 6 ประเทศ คือ จีน เมียนมา ลาว กัมพูชา เวียดนาม และไทย และสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC)เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาในวันที่ 5 ก.ค.นี้
น.ส.รัชดา กล่าวว่า สำหรับสถิติการจับกุมยาเสพติดในประเทศไทยตั้งแต่ ต.ค.63-มิ.ย.64 ยึดยาบ้า 344 ล้านเม็ด ไอซ์ 20,662 กก. และ เฮโรอีน 2,760 กก. ยาอี 279,868 เม็ด รวมทั้งจับกุมยาเสพติดที่เตรียมส่งออกไปยังต่างประเทศ รวม 84 คดี เป็นยาบ้า 39,002 เม็ด ไอซ์ 72.08 กก. เฮโรอีน 285.69 กก. ยาอี 1,922 เม็ด
นอกจากดำเนินการจับกุมแล้ว กระทรวงยุติธรรม ยังได้ทำงานเชิงรุกเรื่องการขยายผลการยึดทรัพย์ผู้กระทำผิดคดียาเสพติด ส่งผลให้ ตัวเลขการยึดทรัพย์ ในสามไตรมาสแรก ของปีงบประมาณ 2564 มีมูลค่า 4,549 ล้านบาท มากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วถึง 3,480 ล้านบาท ซึ่งทางกระทรวงยุติธรรมได้ตั้งเป้ายึดทรัพย์ให้ได้ทั้งปี 6,000 ล้านบาท
น.ส.รัชดา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ความสำคัญในการปราบปรามปัญหายาเสพติด ถือเป็นนโยบายเร่งด่วน และวาระแห่งชาติ ได้ให้การสนับสนุนงบประมาณ สำหรับยกระดับเครื่องมืออุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการเอาผิดยึดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้อง พร้อมปรับปรุงกฎหมาย โดยครม. ผ่านร่างกฎหมาย 3 ฉบับ
ซึ่งขณะนี้รอการเห็นชอบจากรัฐสภา ประกอบด้วย ร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด ร่างประมวลกฎหมายคดียาเสพติด ร่างพระราชาบัญญัติคดียาเสพติด มีสาระสำคัญ เกี่ยวกับการกำหนดอัตราโทษใหม่ที่เหมาะสม การขยายผลการยึดทรัพย์ ส่งผลทำให้การตัดวงจรและทำลายเครือข่ายยาเสพติดได้สะดวกและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น