ไตรมาส2กำไรลดลง66.88%

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2563 มีกำไรสุทธิ 3,094.98 ล้านบาท ลดลง 66.88% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ   9,347.00 ล้านบาท

สาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น 8,151 ล้านบาท เพื่อเสริมสร้างระดับสำรองของธนาคารให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้นท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทั่วโลก จากภาวะอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ 

ธนาคารมีการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อในไตรมาสนี้รวม 2ครั้ง ลดลง 62.5-75.0 bps ส่งผลให้ รายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง 1,710 ล้านบาท สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 7,601 ล้านบาท สาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน (FVTPL)จากสภาวะตลาดเงินและตลาดทุนที่ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน และค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 3,649ล้านบาท

ขณะที่งวดครึ่งปี 2563 กำไรสุทธิ 10,765.49 ล้านบาท ลดลง41.41% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 18,375.30 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการพิจารณาคาดการณ์ปัจจัยทางเศรษฐกิจในอนาคตที่สะท้อนผลกระทบจากโควิด-19 เพื่อให้เงินสำรองของธนาคารสามารถรองรับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 1,995 ล้านบาท สาเหตุจากการปรับลดอัตราเงินนำส่งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินและการเพิ่มขึ้นของปริมาณเงินให้สินเชื่อ ตามที่ได้กล่าวข้างต้น 

รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง 3,112 ล้านบาท จากกำไรสุทธิจากเงินลงทุนลดลง และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิลดลงเป็นผลจากเปลี่ยนแปลงการรับรู้รายได้ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับการให้สินเชื่อตาม TFRS 9 ขณะที่ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจหลักทรัพย์และค่าธรรมเนียมจากบริการวานิชธนกิจเติบโตดี