อิสราเอลโจมตีทั่วกาซาและสั่งอพยพครั้งใหม่พบเสียชีวิตแล้ว 23 คน

ชาวปาเลสไตน์ พากันอพยพออกจากเมืองจาบาเลียในฉนวนกาซาอีกครั้งเมื่อวานนี้ (25 มีนาคม) ทั้งเดินเท้า, รถยนต์และรถลาก หลังจากกองทัพอิสราเอลประกาศคำสั่งอพยพ โดยกองทัพอิสราเอลได้แจ้งต่อชาวปาเลสไตน์ในหลายเมืองภาคเหนือของกาซาให้อพยพ ซึ่งบอกว่า มีการยิงจรวดเจ้าใส่อิสราเอลจากพื้นที่ดังกล่าว 

ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในกาซา ระบุว่า อิสราเอลโจมตีทั่วกาซาเมื่อวานนี้ มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 23 คน โดยกองทัพอิสราเอลรื้อฟื้นการโจมตีกลุ่มฮามาสในกาซาเมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อน สิ้นสุดข้อตกลงหยุดยิงที่ใช้มานาน 2 เดือน ซึ่งตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีแล้วเกือบ 700 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก 

ประชาชนส่วนใหญ่ในกาซา ที่มีประชากร 2.3 ล้านคน ไร้ที่อยู่อาศัยจากการสู้รบหลายระลอกระหว่างสงครามที่ดำเนินมา 18 เดือน และกำลังเผชิญกับปัญหาขาดแคลนอาหารและน้ำดื่มครั้งเลวร้ายอีก หลังจากอิสราเอลระงับการส่งความช่วยเหลือในช่วงต้นเดือนนี้ 

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล แถลงว่า การเปิดฉากโจมตีครั้งใหม่ ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อกดดันกลุ่มฮามาสให้ปล่อยตัวประกันที่เหลือ 59 คน ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในกาซา ซึ่งในจำนวนนี้ เชื่อว่ายังมีชีวิตอยู่ประมาณ 24 คน 

เหตุการณ์นองเลือดครั้งล่าสุดในความขัดแย้งอิสราเอล-ปาเลสไตน์ที่ยืดเยื้อมานานหลายสิบปี มีสาเหตุมาจากนักรบฮามาสบุกโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ซึ่งมีชาวอิสราเอลเสียชีวิต 1,200 คน และจับตัวประกันอีกประมาณ 250 คน ส่วนปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในกาซา เพื่อเป็นการตอบโต้ ทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 50,000 คน