สื่อชี้ สหรัฐฯ ควรเรียกเก็บ 'ภาษีคนรวย' มากขึ้น
นิวยอร์ก, 8 มี.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันจันทร์ (6 มี.ค.) บทความคิดเห็นที่เผยแพร่โดยหนังสือพิมพ์เดอะฮิลล์ (The Hill) ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่าสภาคองเกรสของสหรัฐฯ ได้ปรับลดภาษีพร่ำเพรื่อและแทบจะไม่ขึ้นภาษีคนรวยหรือบริษัทต่างๆ ตลอดช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา โดยกว่าร้อยละ 80 ของการปรับลดภาษีนับตั้งแต่ปี 2000 ครอบคลุมกลุ่มคนรวยสุดร้อยละ 40
ขณะที่การปรับลดภาษีเกือบสองในสามตกครอบคลุมกลุ่มคนรวยสุดร้อยละ 20 และการปรับลดภาษีส่วนใหญ่ครอบคลุมกลุ่มคนรวยสุดร้อยละ 5 ซึ่งส่งผลให้กลุ่มคนร่ำรวยมหาศาลรวยยิ่งขึ้น พร้อมกับการขาดดุลที่ทวีความรุนแรงขึ้นในเวลาเดียวกัน นำไปสู่ปัญหาเพดานหนี้สินอย่างทุกวันนี้บทความชี้ว่าการปรับเปลี่ยนด้านภาษีของพรรครัฐบาลเดโมแครตสามารถระดมเงินช่วยโลกได้หลายแสนล้านดอลลาร์ รวมถึงปรับปรุงสุขภาพของประชาชน และลดหนี้สินของประเทศชาติ แม้ว่าฝั่งพรรครีพับลิกันจะต่อต้านการกระทำดังกล่าวการปรับเปลี่ยนด้านภาษีดังกล่าวครอบคลุมถึงภาษีเงินได้ขั้นต่ำของเศรษฐีพันล้าน (Billionaire minimum income tax) ซึ่งจะเรียกเก็บในผู้ที่มีรายได้มากกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.51 พันล้านบาท) โดยกำหนดให้พวกเขาจ่ายภาษีในอัตราขั้นต่ำร้อยละ 20 ของรายได้ทั้งหมด รวมถึงภาษีจากกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นด้วยปัจจุบันกลุ่มคนร่ำรวยมหาศาลสามารถสะสมกำไรจากส่วนต่างราคาและไม่ต้องเสียภาษี หากพวกเขาไม่ขายสินทรัพย์ของตน ทว่าการปรับแก้เรื่องนี้อาจทำให้ได้รับเงินจากคนกลุ่มนี้เพียงกลุ่มเดียวกว่า 3.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 12.27 ล้านล้านบาท) ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา