รีเซต

ทบ. แจงตรวจพบ "PMN-2" เพิ่มอีก 8 ทุ่น บริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ

ทบ. แจงตรวจพบ "PMN-2" เพิ่มอีก 8 ทุ่น บริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ
TNN ช่อง16
18 กันยายน 2568 ( 07:33 )
4

ตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่น

วานนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย

สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด

จากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา ร่วมรับผิดชอบและแสดงออกอย่างจริงใจในการแก้ไขปัญหาเรื่องทุ่นระเบิดที่ทหารกัมพูชาได้ลักลอบเข้ามาวางในประเทศไทย เพื่อหวังทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหารไทย ซึ่งเป็นเรื่องด่วนที่ต้องเร่งแก้ไข เพราะที่ผ่านมาฝ่ายไทยเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงอยู่เพียงฝ่ายเดียว เพื่อคืนพื้นที่ชายแดนให้มีความปลอดภัยต่อประชาชนของทั้งสองประเทศ

กัมพูชาลุกร้ำเข้ามาในเขตไทย

พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยังได้เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 68   ที่ผ่านมา มวลชนกัมพูชาเข้าทำการรื้อถอนสิ่งกีดขวางป้องกันตนเองของฝ่ายไทย ในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งอยู่ในเขตอธิปไตยไทยอย่างชัดเจน และเช่นเดียวกับในวันนี้ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยพยายามเข้าวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคงในบริเวณดังกล่าว กลับพบการเข้าขัดขวางของมวลชนกัมพูชาจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่มีอาวุธเป็นท่อนไม้และหนังสติ๊ก จนสุดท้ายจำเป็นต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ด้วยการใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยาง เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์ลุกลามเป็นการจลาจล

ทั้งนี้ ได้รับรายงานว่าเจ้าหน้าที่บางส่วนได้รับบาดเจ็บจากการถูกขว้างปาด้วยท่อนไม้ ก้อนหิน รวมถึงถูกยิงด้วยหนังสติ๊ก
โฆษกกองทัพบกยังได้ย้ำว่า สถานการณ์ดังกล่าวถือว่ามวลชนกัมพูชารุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทย ขัดขวางการปฏิบัติงานและทำลายสิ่งของของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นการกระทำที่ชัดเจนว่าผิดต่อกฎหมายของประเทศไทยในหลายมาตรา  โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชาเพิกเฉยและมิได้ดำเนินการ ห้ามปรามแต่อย่างใด ซึ่งมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการยั่วยุ เป็นความตั้งใจที่จะละเมิดในข้อตกลงหยุดยิงโดยให้ประชาชนเป็นผู้ออกหน้า

ดังนั้น การเข้าดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจในการระงับเหตุ และใช้เครื่องมือที่เน้นการผลักดันเพื่อระงับเหตุจลาจล จึงถือว่าเป็นไปตามหลักสากล และเหมาะสมต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

ยืนยันว่าพื้นที่ที่เกิดเหตุอยู่ในเขตพื้นที่อธิปไตยไทยอย่างชัดเจน  อีกทั้งไม่ได้อยู่ในเขตพื้นที่ที่กัมพูชาอ้างสิทธิ์ หรืออยู่ในเขตพื้นที่ของกัมพูชา อย่างที่ทางฝ่ายกัมพูชาพยายามให้ข้อมูลบิดเบือน  เชื่อว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่าย การกระทำผิดกฎหมายของประเทศไทย อย่างชัดเจน

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง