กต.ยันช่วยผู้ลี้ภัยเมียนมาตามหลักมนุษยธรรม เผยมีแผนอพยพคนไทยแล้ว
วันนี้ (1 เม.ย.64) นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงถึงกรณีที่มีผู้หนีภัยความไม่สงบในเมียนมา เข้ามาในประเทศไทย โดยยืนยันว่า ไทยได้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมขอให้มั่นใจว่า ไทยมีประสบการณ์ในการรับมือ และบริหารจัดการ ให้เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน ตลอดจนเตรียมพื้นที่ในการอพยพ และนำผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเข้ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้ มีผู้อพยพเข้ามาในประเทศไทยทั้งสิ้น 2,788 คน มีผู้แสดงความจำนงกลับประเทศแล้ว 2,572 คน เหลือเพียงกลุ่มเด็ก สตรี และคนชรา จำนวน 216 คน ตามข้อมูลวันที่ 31 มีนาคม 2564
พร้อมย้ำว่า ไทยไม่มีนโยบายในการผลักดันผู้อพยพอย่างแน่นอน โดยจะต้องดูแลตามหลักสิทธิมนุษยธรรม แม้ไทยจะไม่ได้เป็นอนุสัญญาว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย ซึ่งผู้ที่เดินทางกลับนั้น เป็นการเดินทางด้วยความสมัครใจ ไม่ใช่การผลักดัน
ส่วนการให้ความช่วยเหลือคนไทยในเมียนมานั้น นายธานี ชี้แจงว่า กระทรวงการต่างประเทศ ได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง ว่า สถานการณ์ยังมีการประท้วงอยู่ตลอด แต่ทางการไทย ได้เตรียมแผนการพร้อมอพยพคนไทยแล้ว แต่จากการประเมินสถานการณ์ ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นต้องอพยพคนไทยกลับประเทศ แต่หากสถานการณ์รุนแรงขึ้นทางการไทยก็พร้อมที่จะอพยพคนไทยกลับประเทศทันที
นายธานี ยังยืนยันด้วยว่า สถานเอกอัครราชทูตไทย กรุงย่างกุ้ง มีการอำนวยความสะดวกผู้ที่จะกลับไทยในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งได้ประสานเที่ยวบินไว้ 3 เที่ยวบิน คือ วันที่ 6 เมษายน 2564 2 เที่ยวบิน จำนวน 2 เที่ยวบิน และวันที่ 9 เมษายน 2564 จำนวน 1 เที่ยวบิน ผู้ที่ประสงค์จะกลับไทยสามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง
นายธานี ย้ำด้วยว่า ประเทศไทยไม่สบายใจต่อการเสียชีวิต และการบาดเจ็บของประชาชนเมียนมา จึงขอให้ทางการเมียนมาใช้ความอดทนอดกลั้นในการดำเนินการและคลี่คลายสถานการณ์ พร้อมทั้งให้ปล่อยตัวผู้ที่ถูกจับกุม และให้ทุกฝ่ายหาทางออกร่วมกันผ่านการพูดคุยอย่างสร้างสรรค์โดยเร็ว เพื่อให้เมียนมากลับคืนสู่สภาวะปกติ
ส่วนกรณีที่มิสแกรนด์ชาวเมียนมาแสดงท่าทีทางการเมืองในไทยนั้น นายธานี ยืนยันว่า กระทรวงการต่างประเทศ ไม่ได้กังวลต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งมิสแกรนด์เมียนมา สามารถพำนักในประเทศไทยได้ตามระยะเวลาของวีซ่า และสามารถเข้า-ออกไทยได้ตามปกติ ซึ่งสถานเอกอัคราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทย ไม่ได้ประสานมายังกระทรวงการต่างประเทศแต่อย่างใด