“โคราช” ฝนตกหนักน้ำหลากเซาะหน้าดิน พบโครงกระดูกมนุษย์-เศษเครื่องปั้นดินเผาโบราณ

หลังฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดนครราชสีมา กระแสน้ำหลากกัดเซาะหน้าดิน บริเวณร่องน้ำริมถนนท้ายหมู่บ้านไร่แหลมทอง ต.ลำเพียก อ.ครบุรี ทำให้โครงกระดูกคล้ายโครงกระดูกมนุษย์ และเศษเครื่องปั้นดินเผากระจัดกระจัดจายอยู่บริเวณดังกล่าวเป็นจำนวนมาก เบื้องต้น พ.ต.อ.นพดล ช่วยบุญ ผู้กำกับการ สภ.ครบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว พบเป็นถนนลูกรังที่ตัดผ่านไร่อ้อยและไร่มันสำปะหลังของชาวบ้านทางด้านทิศตะวันออกของเขื่อนลำแชะ ต.ลำเพียก อ.ครบุรี ห่างจากบ้านไร่แหลมทอง เกือบ 3 กิโลเมตร สภาพถนนเป็นดินลูกรังบดอัด กว้างประมาณ 5 - 6 เมตร ด้านข้างทั้งสองเป็นร่องน้ำสูงจากพื้นที่การเกษตร ประมาณ 1.5 เมตร ซึ่งบริเวณร่องน้ำ มีร่องรอยถูกน้ำหลาก ซัดกัดผิวดิน และลึกลงไปมีโครงกระดูกมนุษย์ท่อนล่างบางส่วนโผล่ขึ้นมาให้เห็น คาดว่า น่าจะมีประมาณ 4 – 5 โครง และยังพบชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์กระจัดกระจายอยู่ทั้งกลางถนนและร่องน้ำอีกจำนวนหนึ่งด้วย
นอกจากนี้ ยังมีเศษเครื่องปั้นดินเผาที่มีรูปร่างคล้ายไหและหม้อโบราณอีกหลายใบ รวมทั้ง เศษเครื่องปั้นดินเผาที่แตกหักกระจายอยู่ตามชั้นดินอีกจำนวนมาก และพบก้อนดินปั้นขนาดเท่ากับไข่ห่าน ถูกฝังดินทั่วบริเวณด้วย
จากการสอบถาม พ.ต.อ.นพดล ช่วยบุญ ผกก.สภ.ครบุรี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ครบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านไร่แหลมทอง ต.ลำเพียก อ.ครบุรี ว่า พบชิ้นส่วนโครงกระดูกที่คล้ายกับโครงกระดูกมนุษย์ และเครื่องปั้นดินเผาอยู่บริเวณร่องน้ำข้างไร่อ้อยและมันสำปะหลัง เมื่อลงพื้นที่ตรวจสอบ เชื่อได้ว่า น่าจะเป็นโครงกระดูกของมนุษย์และเครื่องปั้นดินเผาสมัยโบราณที่ถูกฝังเอาไว้ เพราะอยู่ใต้ดินลึกมาก ประกอบกับช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝน มีน้ำหลากไหลกัดเซาะดินจนเป็นร่องน้ำลึก โครงกระดูกของมนุษย์และเครื่องปั้นดินเผาจึงโผล่มาให้เห็น เบื้องต้น คาดว่า น่าจะมีโครงกระดูกอยู่ประมาณ 4 – 5 โครง ซึ่งตอนนี้ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรให้เข้ามาตรวจสอบ เพื่อดูว่าจะเป็นการค้นพบที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์หรือไม่