รีเซต

สนทช. เตรียมพร้อมจัดการน้ำรับมือ "เอลนีโญ" ที่ส่งผลกระทบต่อเนื่อง

สนทช. เตรียมพร้อมจัดการน้ำรับมือ "เอลนีโญ" ที่ส่งผลกระทบต่อเนื่อง
TNN ช่อง16
4 มกราคม 2567 ( 12:35 )
41
สนทช. เตรียมพร้อมจัดการน้ำรับมือ "เอลนีโญ" ที่ส่งผลกระทบต่อเนื่อง

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ประชุมประเมินสถานการณ์น้ำประจำปี 2567 คาดตอนบนของประเทศอาจพบเจอกับภาวะภัยแล้งบางแห่ง จากปรากฎการณ์เอลนีโญที่ยังส่งผลกระทบต่อเนื่อง 

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประเมินสถานการณ์น้ำ โดยระบุภายหลังประชุมว่า สถานการณ์ในขณะนี้ถือว่ายังคงอยู่ในช่วงของปรากฏการณ์ของเอลนีโญ ที่ยังคงมีผลให้หลายพื้นที่มีฝนที่น้อยหรือจะไม่มีฝนเลย ทำให้หลายพื้นที่เริ่มมีปริมาณน้ำน้อยลง 


สทนช. จึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการลงพื้นที่แก้ไขปัญหาแหล่งน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค ที่หากอยู่ในระยะที่จะมีน้ำใช้ได้อีก 1-2 เดือน ก็จะมีการดึงเอาในน้ำผิวดินใกล้เคียงเข้ามาเติมด้วยการสูบให้เพียงพอสำหรับการอุปโภคและบริโภค ซึ่งเป็นไปตาม 9 มาตรการรับมือฤดูแล้ง


ส่วนลุ่มเจ้าพระยา ขณะนี้พบว่ามีการเพาะปลูกเกินแผนไปเล็กน้อย จึงได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องของน้ำที่มีอยู่ ที่จะต้องมีการบริหารจัดการให้สมดุล และไม่ให้มีการเพาะปลูกเกินแผนไปมากกว่านี้ ส่วนพื้นที่ eec ฤดูฝนที่ผ่านมาได้มีการบริหารจัดการน้ำอย่างเต็มที่ ทำให้ยังคงมีน้ำรองรับได้อย่างเพียงพอไปจนถึงเดือนมิถุนายน

สำหรับภาพรวมของพื้นที่ภาคใต้ถือว่ายังคงประสบปัญหาในเรื่องของพื้นที่น้ำล้นตลิ่งอยู่ โดยเฉพาะในพื้นที่ของ จ.ปัตตานี แต่คาดว่าแนวโน้มจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 2-3 วันนี้ ซึ่ง สทนช. ได้ตั้งศูนย์อำนวยการน้ำส่วนหน้าที่ จ.ยะลา เพื่ออำนวยการให้หน่วยงานต่าง ๆ เข้าไปดูแลช่วยเหลืออย่างเต็มที่ รวมถึงลดการระบายน้ำจากเขื่อนบางลาง ลงมาอยู่ที่ 12 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำที่จะลงมายัง จ.ปัตตานี มีปริมาณน้ำลดลง

ทั้งนี้ พื้นที่ภาคใต้ตอนบนถือว่ามีฝนค่อนข้างน้อย โดยเฉพาะพื้นที่ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในแผนของ สทนช. ในการเข้าไปแก้ไขช่วยเหลือ ซึ่งพื้นที่ที่เป็นห่วงภัยแล้งในปีนี้หลัก ๆ คือพื้นที่นอกเขตชลประทาน ซึ่งประชาชนก็ยังสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือมาได้ โดยเฉพาะเรื่องของน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค ที่จะไม่ให้ขาดอย่างแน่นอน




ภาพจาก AFP

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง