รีเซต

มติศบศ.เคาะ "คนละครึ่ง" เพิ่มสิทธิใหม่อีก 5 ล้านคน ดีเดย์ลงทะเบียน16 ธ.ค.นี้

มติศบศ.เคาะ "คนละครึ่ง" เพิ่มสิทธิใหม่อีก 5 ล้านคน ดีเดย์ลงทะเบียน16 ธ.ค.นี้
มติชน
3 ธันวาคม 2563 ( 08:37 )
169
มติศบศ.เคาะ "คนละครึ่ง" เพิ่มสิทธิใหม่อีก 5 ล้านคน ดีเดย์ลงทะเบียน16 ธ.ค.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล มีการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) มีมติเห็นชอบมาตรการ”คนละครึ่ง”ระยะที่สอง โดยเพิ่มสิทธิให้อีก 5 ล้านคน จะเปิดให้เริ่มลงทะเบียนในวันที่ 16 ธันวาคมนี้ และสิ้นสุดโครงการในวันที่ 31 มีนาคม 2564 ส่วนวงเงินที่ได้รับคนที่เข้าโครงการแล้ว จำนวน 10 ล้านคน จะได้เพิ่มอีกคนละ 500 บาท ส่วนคนที่ลงทะเบียนใหม่ 5 ล้านสิทธิจะได้ยอดเงินใช้จ่ายรายละ 3,500 บาท

 

ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมศบศ. ทางททท.ได้ข้อเสนอการปรับปรุงโครงการ”เราเที่ยวด้วยกัน โดยปรับปรุงขอบเขตการใช้สิทธิจำนวนการจองห้องพักเพิ่มเติม และขยายเวลาใช้มาตรการ ได้แก่ จากเดิมประชาชนจองที่พักได้ไม่เกิน 10 คืน ต่อ 1 สิทธิ สามารถจองที่พักเพิ่มอีก 5 คืน เป็น 15 คืน ต่อ 1 สิทธิ เพิ่มจำนวนห้องพักสำหรับประชาชนอีก 1 ล้านคืน เป็น 6 ล้านคืน จากเดิม 5 ล้านคืน

 

จำนวนห้องพักที่เพิ่มมาจะสนับสนุนเฉพาะการใช้ผ่านอีวอชเชอร์เท่านั้น คือ วันจันทร์-พฤหัสบดี ได้คูปองใช้จ่าย 900 บาทต่อวัน วันศุกร์-อาทิตย์ 600 บาทต่อวัน ขยายระยะเวลาการใช้สิทธิโครงการถึงเดือนเมษายน 2564 และขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายโครงการถึงเดือนมินายน 2564 โดยที่ประชุมได้เห็นชอบในหลักการตามที่เสนอไป ขั้นตอนต่อจากนี้ จะนำเสนอเข้าคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้เงินกู้ และนำเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบต่อไป

 

“รวมปรับเกณฑ์การสนับสนุนค่าบัตรโดยสารเครื่องบิน ให้การจองบัตรโดยสารเครื่องบินที่เดินทางไปเฉพาะเมืองหลัก ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา สงขลา สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ และเชียงราย ในการเดินทางท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จะได้รับเงินคืนจากรัฐบาล 40% แต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อที่นั่ง และการกำหนดหลักเกณฑ์การลาสำหรับข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง พนักงานรัฐวิสาหกิจ ให้สามารถลาพักผ่อนในวันธรรมดาเพิ่มได้ 2 วัน แบบไม่ถือเป็นวันลา เมื่อใช้สิทธิในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ทั้งยังปรับปรุงโครงการกำลังใจ โดยเพิ่มสิทธิสำหรับเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุข สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร จำนวน 570 คน และเจ้าหน้าที่หัวหน้างานสาธารณสุขมูลฐานและงานสุขภาพ ภาคประชาชนระดับจังหวัดแลระดับอำเภอ กระทรวงสาธารณสุข จำนวน 2,615 คน ให้สามารถเข้าร่วมโครงการกำลังใจได้ และขยายเวลาการดำเนินโครงการ จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 ตุลาคม 2563 เป็น วันที่31 มกราคม 2564 และขยายระยะเวลการเบิกจ่ายเป็นวันที่ 31 มีนาคม 2564 แทน ” นายยุทธศักดิ์ กล่าว

 

นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ยังออกแพคเกจส่งเสริมการท่องเที่ยวในกลุ่มผู้สูงอายุ ภายใต้ชื่อ “เที่ยวไทยวัยเก๋า” ใช้วงเงินงบประมาณ 5,000 ล้านบาท ให้เบิกจ่ายในวงเงินงบประมาณเดิมภายใต้โครงการเราเที่ยวด้วยกัน โดยเที่ยวไทยวัยเก๋าใช้รูปแบบการดำเนินงานและแพลตฟอร์มโครงการกำลังใจ

 

มีเงื่อนไขคือ ผู้เข้าร่วมโครงการต้องเป็นผู้ที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป เดินทางท่องเที่ยวข้ามจังหวัดในวันธรรมดา (วันอาทิตย์-วันพฤหัสบดี) ผ่านบริษัทนำเที่ยว มีราคาแพคเกจทัวร์เริ่มต้นขั้นต่ำ 12,500 บาท ระยะเวลาการเดินทางท่องเที่ยวอย่างน้อย 3 วัน 2 คืน ผู้เข้าร่วมโครงการต้องแสดงตนเพื่อรับสิทธิผ่านแอพพลิเคชั่นธนาคารกรุงไทย และบริษัทนำเที่ยวที่เข้าร่วมโครงการ จะต้องจดทะเบียนก่อนวันที่ 1 มกราคม 2563 รัฐบาลจะสนับสนุนการเดินทางท่องเที่ยวผ่านบริษัทนำเที่ยวในกลุ่มผู้สูงอายุ เป้าหมาย 1 ล้านคน จำนวน 5,000 บาท ต่อ 1 ท่าน โดยบริษัทนำเที่ยวสามารถรับนักท่องเที่ยวได้บริษัทละ 3,000 ราย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง