สรรพสามิต เล็งเคาะภาษีบุหรี่ใหม่มี.ค. กัญชง-กัญชารอกฎหมายเปิดทาง ชี้โควิดกระทบรายได้ 2-3%

นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยถึงการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาเพื่อปรับปรุงภาษีใหม่ เพื่อนำเสนอ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ภายในเดือนมีนาคม 2564 โดยต้องตอบโจทย์ 4 เรื่องคือ 1.การดูแลเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบ 2.ด้านสุขภาพในการลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ 3.ลดการลักลอบนำเข้าบุหรี่อย่างผิดกฎหมาย และ 4.ไม่กระทบการจัดเก็บรายได้ ซึ่งภาษีบุหรี่ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ที่อยู่ในอัตรา 40% นั้นมีผลบังคับใช้ถึง ปีงบประมาณ 2564 จึงทำให้โครงสร้างภาษีบุหรี่ที่กำลังปรับปรุงจะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2564

นายลวรณ กล่าวว่า การปรับโครงสร้างภาษีนั้น จะช่วยให้การลักลอบนำของบุหรี่อย่างผิดกฎหมายลดลงได้แน่นอน ถึงแม้ว่าโจทย์ทั้ง 4 เรื่องจะดูขัดแย้งกัน แต่มันต้องมีจุดที่พอดีของภาษี ที่ทำให้เกิดความสมดุลทั้ง 4 เรื่องได้ ส่วนรายได้ของกรมฯ ที่มาจากภาษีบุหรี่นั้น ประมาณ 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งหากปรับปรุงโครงสร้างภาษีใหม่แล้ว กรมฯก็ยังสามารถจัดเก็บรายได้ในส่วนนี้ได้ใกล้เคียงเดิม

นายลวรณ กล่าวว่ากรณีที่ชาวเกษตรการผู้ปลูกยาสูบไม่พอใจกับการพิจารณาให้ข้าวโพดและมันสำปะหลังเป็นพืชทดแทนยาสูบนั้น หากเกษตรไม่พอใจการพิจารณาของกรมก็สามารถปลูกพืชชนิดอื่นทดแทนได้ โดยมีพืชที่สามารถปลูกในพื้นที่ที่ปลูกยาสูบ 10 ชนิด การกรมฯให้ข้าวโพด เป็นพืชทดแทนนั้นเนื่องจาก เป็นพืชที่มีการประกันรายได้เกษตรกร ซึ่งจะไม่ส่งผลต่อรายได้เกษตรกรมานัก นอกจากนี้กรมฯก็จะลงพื้นที่เพื่อให้ความรู้และทำความเข้าใจกับเกษตร

นายลวรณ กล่าวว่ากรณีที่กัญชง-กัญชาเป็นพืชทดแทนนั้น จะต้องดูกฎหมายว่าขณะนี้เปิดทางให้สามารถปลูกได้หรือไม่ อย่างไร ถ้าหากกฎหมายเปิดทางให้แล้ว กรมฯจะอนุญาตให้เกษตรผู้ปลูกยาสูบเป็นผู้ปลูกกลุ่มแรก ส่วนกรณีกระแสข่าวที่ว่าจะมีการนำกัญชามาใช้ผสมเครื่องดื่มชูกำลังนั้น ว่า ถ้าหากได้รับกฎหมายของไทยอนุญาตอย่างเป็นทางการในเรื่องดังกล่าวแล้ว กรมฯจึงจะสามารถทำการคำนวณอัตราภาษีได้

นายลวรณ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ระลอกใหม่ นั้นส่งผลกระทบให้การจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2564 ของกรมสรรพามิตลดลง แต่กรมฯจะพยายามเก็บให้ได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่กำหนดมากที่สุด ซึ่งการทำเอกสารงบประมาณนั้น เป็นการทำล่วงหน้า โดยเป็นการคำนวณจากการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้สูง จึงทำให้เป้าการจัดเก็บในเอกสารสูงตาม ซึ่งขณะนี้มีการปรับตัวเลขเศรษฐกิจลงมา เป้าหมายการจัดเก็บรายได้ก็จะปรับตามลงมาเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ

นายลวรณ กล่าวว่า การจัดเก็บรายได้ของกรมฯใน ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2564 ลดลงเพียงประมาณ 2-3% จาการที่กรมฯ พยายามเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บรายได้ ด้วยการใช้เทคโนโลยี ส่วนประเภทสินค้าที่กรมสามารถจัดเก็บภาษีได้สูง คือ ภาษีรถยนต์ เนื่องจากมีการจัดงานมอเตอร์โชว์ ในช่วงปลายปี 2563 และ ภาษีเบียร์ เพราะประชาชนเรียนรู้จากการล็อกดาวน์ครั้งที่แล้ว จึงมีพฤติกรรมการหาซื้อตุ้นเบียร์ไว้