“แอปเปิล” คาดต้นทุนพุ่ง 900 ล้านดอลล์

“แอปเปิล” ยักษ์เทคโนโลยีจากสหรัฐฯ รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 แม้รายได้จะเพิ่มขึ้นและสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ แต่ยอดขายในจีนที่ยังร่วงต่อเนื่อง ประกอบกับผลกระทบจากกำแพงภาษีสหรัฐฯ ฉุดให้ราคาหุ้นร่วงลงถึงร้อยละ 4.2 ท่ามกลางความกังวลของนักลงทุน

“ทิม คุก” CEO ของ “แอปเปิล” ระบุว่า บริษัทน่าจะมีต้นทุนเพิ่มขึ้นราว 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาสปัจจุบัน เนื่องจากมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่บริษัทยังไม่ได้ประเมินผลกระทบจากภาษีหลังจากนี้ 

คำเตือนดังกล่าวเป็นสัญญาณว่า ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์กำลังส่งผลกระทบรุนแรงขึ้นต่อ “แอปเปิล” ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่าตลาดมากสุดในโลก 

นอกจากนี้ “แอปเปิล” ยังคาดว่า รายได้รวมในไตรมาสปัจจุบันน่าจะเพิ่มขึ้นในอัตราเลขหลักเดียวช่วงต้น-กลาง เทียบกับที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ราวร้อยละ 5 

สำหรับรายได้รวมของ “แอปเปิล” ในไตรมาส 2 ปีนี้ ซึ่งสิ้นสุดในเดือนมีนาคม อยู่ที่ 9.54 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 

”

แต่ยอดขายในจีนไตรมาสล่าสุดอยู่ที่ 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 2.3 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ที่ 1.68 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ไม่ดีนักสำหรับตลาดที่เคยเติบโตอย่างมาก 

ทั้งนี้ “แอปเปิล” สูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับแบรนด์ท้องถิ่น อาทิ หัวเว่ย, เสียวหมี่ และออปโป้ ขณะที่หน่วยงานรัฐบางแห่งคว่ำบาตรเทคโนโลยีจากต่างประเทศ

ขณะเดียวกัน จีนยังเป็นฐานการผลิตสำคัญของ “แอปเปิล” ทำให้มีความเสี่ยงมากขึ้นจากมาตรการกำแพงภาษีของ “ทรัมป์