หุ้นไทยวันนี้คาดแกว่งกรอบแคบ หลังเฟดจะลด QE ตามตลาดคาด
ทันหุ้น-บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยจะแกว่ง Sideways ในกรอบ 1,610-1,630 จุด โดยผลประชุมเฟด ระบุว่าเตรียมเริ่มลด QE เร็วๆ นี้ และจะสิ้นสุดช่วงกลางปี 2565 สอดคล้องกับที่ฝ่ายวิจัยประเมินว่าจะลดขนาด QE ลงเดือนละ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วน Dot Plot สะท้อนมุมมองการขึ้นดอกเบี้ยที่เร็วขึ้นเป็นปี 2565 ส่งผลให้ Dollar Index แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง และกดดัน Flow ให้มีโอกาสไหลออกโดยเฉพาะตลาดพันธบัตร
อย่างไรก็ตามยังให้น้ำหนักปัจจัยขับเคลื่อนดัชนีอยู่ที่การทยอยเปิดเมือง และเปิดประเทศในไตรมาส 4/64 และปี 2565 ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจทยอยฟื้นตัวมากกว่า โดยจับตาการประชุมศบค.ชุดใหญ่ในวันที่ 27 ก.ย. ว่าจะมีมติคลายล็อคดาวน์ และเปิดเมืองท่องเที่ยวเพิ่มเติมหรือไม่ โดยกลยุทธ์แนะนำสะสม หุ้นเพิ่มบริเวณ1,600 จุดให้ถือลงทุนต่อเนื่อง
ด้านบล.เคทีบีเอสที คาดว่าตลาดหุ้นจะผันผวนต่อ โดยผลประชุม FOMC เป็นไปตามคาดเพียงอย่างเดียวคือเริ่มลด QE ในปีนี้คือเดือน พ.ย. แต่ที่เร็วกว่าคาดคือจะขึ้นดอกเบี้ยปีหน้าเลย น่าจะมีผลในเชิงลบต่อตลาดหุ้นในวันนี้ แต่ไม่ได้มากนัก ขณะที่วิกฤติการเงินของเอเวอร์แกรนด์ คาดทางการจีนเข้าช่วยเหลือทางการเงินในการจ่ายดอกเบี้ยในรอบนี้ ทำให้ตลาดลดความกังวลลง แต่ยังคงต้องดูการแก้ปัญหาแบบเบ็ดเสร็จว่าจะเป็นรูปแบบใด ซึ่งสองปัจจัยดังกล่าว จะทำให้ตลาดหุ้นมีความผันผวนต่อ
อย่างไรก็ตาม เมื่อดูราคาสินทรัพย์ทางการเงินต่างๆ อาทิ Bond Yield ของสหรัฐ ราคาน้ำมันดิบหรือค่าเงินดอลลาร์ พบว่ายังไม่ได้ตอบสนองในเชิงลบให้เห็นจึงประเมินว่าราคาสินทรัพย์เหล่านี้จะเริ่มตอบรับกับผลประชุม FOMC ในวันนี้ จึงควรดูดัชนีดาวน์โจนส์ล่วงหน้า ประกอบการตัดสินใจลงทุนในวันนี้ด้วย ส่วนปัจจัยในประเทศ จะเป็นเงื่อนไขการเปิดประเทศ ที่จะเลื่อนไปเป็นเดือน พ.ย. ซึ่งไม่ได้มองในทางลบ แต่กลับเห็นว่าน่าจะทำให้โอกาสที่จะเกิดการระบาดรอบใหม่มีน้อยลง เพราะการฉีดวัคซีนน่าจะถึงระดับ 70% แล้ว หุ้นกลุ่มที่อิงกับการเดินทาง-ท่องเที่ยว จึงยังเป็นบวกต่อ