เปิดตัวเรือเหาะและเครื่องบินไร้คนขับเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมคู่แข่ง Starlink

24 พฤศจิกายนที่ผ่านมาในขณะที่กลุ่มดาวเทียมขนาดใหญ่ที่โคจรต่ำ (LEO) อย่างบริการ Starlink ของบริษัท SpaceX กำลังขยายเครือข่ายเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่ห่างไกลทั่วโลก คู่แข่งรายใหม่ที่น่าจับตาได้ถือกำเนิดขึ้น นั่นคือ เทคโนโลยีแพลตฟอร์มระดับสูง (HAPS) เจเนอเรชันใหม่
ซึ่งประกอบด้วยบอลลูนและอากาศยานไร้คนขับที่บินในชั้นบรรยากาศสตราโตสเฟียร์สูง 10-50 กิโลเมตร โดยผู้พัฒนาอย่างบริษัท World Mobile Stratospheric และ Sceye พร้อมเคลมว่าเทคโนโลยีของบริษัทจะสามารถให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในราคาที่ถูกกว่าและมีประสิทธิภาพเหนือกว่าระบบดาวเทียม LEO เช่น บริการของ Starlink
ปฏิวัติ HAPS ด้วยพลังงานและเสาอากาศประสิทธิภาพสูง
เทคโนโลยี HAPS ไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยก่อนหน้านี้เคยมีโครงการในลักษณะที่ใกล้เคียงกันล้มเหลวมาแล้วเช่น โครงการ Loon ของ Google ที่ยุติไปในปี พ.ศ. 2564 อย่างไรก็ตาม บริษัทผู้พัฒนารายใหม่เชื่อว่าพวกเขาได้ก้าวข้ามข้อจำกัดและแก้ไขข้อผิดพลาดในอดีต
ริชาร์ด ดีกิน (Richard Deakin) ซีอีโอของบริษัท World Mobile Stratospheric อธิบายว่า HAPS ในอดีตมีข้อจำกัดด้านพลังงานจากเซลล์แสงอาทิตย์ ซึ่งรองรับเสาอากาศขนาดใหญ่ที่จำเป็นต่อการส่งอินเทอร์เน็ตแบนด์วิดท์สูงครอบคลุมพื้นที่กว้างไม่ได้
Stratomast เครื่องบินไฮโดรเจนเหลว ความเร็ว 200 Mbps
บริษัท World Mobile Stratospheric กำลังพัฒนาเครื่องบินอัตโนมัติที่ใช้พลังงานจากไฮโดรเจนเหลวชื่อ Stratomast ซึ่งสามารถลอยตัวอยู่ที่ระดับความสูง 60,000 ฟุต หรือ 18 กม. ได้นานถึง 6 วัน
จุดเด่นสำคัญคือความสามารถในการสร้างไฟฟ้าเพียงพอเพื่อรองรับเสาอากาศแบบ Phased-array ขนาด 10x10 ฟุต ทำให้สามารถเชื่อมต่อผู้ใช้บนโลกได้พร้อมกันถึง 500,000 คน โดยริชาร์ด ดีกิน ระบุว่าผู้ใช้จะได้รับความเร็วในการเชื่อมต่อสูงถึง 200 เมกะบิตต่อวินาที (Mbps) ส่งตรงถึงสมาร์ตโฟนในมือ
ซึ่งนับเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญ เมื่อเทียบกับบริการเชื่อมต่อโดยตรงถึงอุปกรณ์ (Direct-to-device) ของ Starlink ที่ปัจจุบันทำความเร็วได้เพียง 17 เมกะบิตต่อวินาที (Mbps)
สำหรับเครื่องบิน Stratomast ที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์และมีปีกกว้าง 184 ฟุต หรือ 56 เมตร หนึ่งลำสามารถครอบคลุมพื้นที่ 6,000 ตารางไมล์ หรือ 15,000 ตารางกิโลเมตร ทางบริษัทประมาณการว่าการให้บริการในสกอตแลนด์อาจมีค่าใช้จ่ายเพียง 40 ล้านปอนด์ หรือ 52 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ทำให้สามารถให้บริการอินเทอร์เน็ต 200 Mbps ในราคาที่ถูกมาก คือ ประมาณ 60 เพนซ์ หรือประมาณ 27 บาท ต่อคนต่อเดือน
Sceye เรือเหาะพลังงานแสงอาทิตย์ เอาชนะความมืดมิด
อีกบริษัทที่โดดเด่นคือ Sceye ซึ่งพัฒนายาน HAPS ลักษณะคล้ายเรือเหาะพลังงานแสงอาทิตย์ โดยประสบความสำเร็จในการทดสอบการบินหลายครั้ง และในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว เรือเหาะ Sceye ได้กลายเป็นแพลตฟอร์มสตราโตสเฟียร์แรกที่สามารถอยู่รอดในเวลากลางคืนโดยไม่ตกลง และยังคงรักษาตำแหน่งเหนือจุดคงที่บนโลกได้สำเร็จ
ก่อนหน้านี้ ปัญหาการดริฟท์และการรักษาตำแหน่งเคยเป็นสาเหตุหนึ่งของความล้มเหลวในโครงการ Loon ของ Google โดยยมิกเคล ฟรานเซน (Mikkel Frandsen) ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของบริษัท Sceye ได้รับการลงทุนเชิงกลยุทธ์จาก SoftBank และเชื่อว่ากลุ่มดาวเทียม LEO ไม่สามารถตอบสนองความต้องการการเชื่อมต่อทั่วโลกได้อย่างสมบูรณ์
ข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์และความยั่งยืน
สำหรับแพลตฟอร์ม HAPS ถูกมองว่าเป็นทางเลือกที่มีความยืดหยุ่นกว่าอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมโดยตรง ซึ่งมีความเสี่ยงจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์การเมืองโลก ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า HAPS ครอบคลุมสิ่งที่ดีที่สุดของเครือข่ายภาคพื้นดินและสิ่งที่ดีที่สุดของดาวเทียม โดยไม่ได้รับผลกระทบจากข้อเสียของทั้ง 2 อย่าง
นอกจากนี้ แพลตฟอร์ม HAPS ยังช่วยลดความกังวลด้านความยั่งยืนในอวกาศที่เกิดจากการเพิ่มจำนวนของดาวเทียม LEO ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสี่ยงของการชนกันและสร้างเศษชิ้นส่วนอันตรายในวงโคจรใกล้โลก
สำหรับแผนการในอนาคตบริษัท World Mobile ได้ร่วมมือกับบริษัท Protelindo ของประเทศอินโดนีเซียเพื่อทดสอบ Stratomast โดยมีแผนจะเริ่มการทดสอบการบินในชั้นบรรยากาศสตราโตสเฟียร์ในปี พ.ศ. 2570 ขณะที่บริษัท Sceye ก็หวังที่จะเริ่มให้บริการเชิงพาณิชย์ในปี พ.ศ. 2570 เช่นกัน ซึ่งบ่งชี้ว่าสงครามการแข่งขันด้านอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงกำลังจะก้าวสู่มิติใหม่เหนือชั้นบรรยากาศสตราโตสเฟียร์
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
