รีเซต

แก๊สบึ้มป่น 3 บ้านติดกันราบคาบ เมืองบัลติมอร์ ดับเพลิงดึง 5 ชีวิตใต้ซาก-มีเด็กด้วย

แก๊สบึ้มป่น 3 บ้านติดกันราบคาบ เมืองบัลติมอร์ ดับเพลิงดึง 5 ชีวิตใต้ซาก-มีเด็กด้วย
ข่าวสด
11 สิงหาคม 2563 ( 01:27 )
177

แก๊สบึ้มป่น 3 บ้านติดกันราบคาบ - วันที่ 10 ส.ค. เดลี่เมล์ รายงานเหตุระทึกที่สหรัฐอเมริกา แก๊สระเบิดบ้านห้องแถวสามหลังราบเป็นหน้ากลอง ระหว่างถนนแลบิรินธ์และถนนเรสเตอร์สทาวน์ ที่เมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ เมื่อ 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ดึงผู้ติดใต้ซากออกมาแล้ว 5 คน ซึ่งมีเด็กด้วย

https://www.facebook.com/6abcActionNews/videos/baltimore-home-explosion/3143477869054786/

 

นักผจญเพลิงดึงผู้ติดใต้ซาก 3 คน ที่มีอาการสาหัสออกมา และรีบนำส่งโรงพยาบาล ส่วนคนที่สี่เป็นหญิงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ตามด้วยคนที่ห้าถูกช่วยออกมาก่อนช่วงบ่ายและนำส่งโรงพยาบาลด้วยอาการสาหัส

 

กรมดับเพลิงบัลติมอร์ยืนยันว่า ทีมกู้ภัยกำลังปฏิบัติงานช่วยเหลืออีกอย่างน้อย 1 คน ที่ยังติดอยู่ใต้ซากบ้าน และเกรงว่าอาจมีคนอื่นด้วย นอกจากนี้ บุคลากรปฏิบัติการช่วยเหลือพิเศษที่อยู่นอกเวลางานถูกเรียกมาสมทบ เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นเป็นวงกว้าง เจ้าหน้าที่ทั้งหมดมากกว่า 200 นาย ระดมกำลังค้นหาผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ

 

 

ภาพถ่ายจากที่เกิดเหตุเผยบ้านราบเป็นหน้ากลองอย่างสิ้นเชิง เสียงระเบิดดังสนั่นไปไกลหลายบ้าน แรงระเบิดทำให้หน้าต่างของบ้านเรือนใกล้เคียงอย่างน้อยสี่หลังแตกกระจาย ฝุ่นและเศษอาคารฟุ้งกระจายในอากาศ ขณะที่ครอบครัวและเพื่อนบ้านยืนรอข่าวคราวของคนรักในที่เกิดเหตุ

 

เจ้าหน้าที่ระบุว่า เหตุเกิดจากแก๊สระเบิด ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน และไม่มีรายละเอียดของผู้เคราะห์ร้าย

 

 

เควิน แมตธิวส์ ผู้อยู่อาศัยริมถนนแลบิรินธ์ 28 ปี บอกกับ ชิคาโก ตรีบูน รุดไปที่เกิดเหตุระเบิดหลัง 10 โมงเช้าไม่นาน และได้ยินเสียงกรีดร้องของเด็กจากใต้ซากปรักหักพังว่า "มารับพวกหนูด้วย พวกหนูติดอยู่ที่นี่"

 

ส่วน ดีน โจนส์ เพื่อนบ้านอีกคน บอก ซีบีเอส บัลติมอร์ วิ่งหนีอกจากบ้านทันทีหลังได้ยินเสียงระเบิด จากนั้น ได้กลิ่นแก๊สและควัน และได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากใต้ซากอาคาร

 

 

"มันคือหายนะ เหมือนระเบิดที่เคยเกิดขึ้นในประเทศอื่น เหมือนการเห็นของจริง เสาโทรศัพท์ตก บ้านพัง และกระจกแตก ตอนที่ผมไปถึงที่เกิดเหตุ ตอนแรกผมได้ยินเสียงคนพูดช่วยด้วย บ้าเหลือเกิน ผมไม่อยากเห็นอะไรแบบนี้อีก ไม่อยากหวนกลับไปอีกแล้ว" ดีน โจนส์ กล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง