SSPเล็งโซลาร์200เมก ธุรกิจใหม่ต่อยอดรายได้
SSP เล็งโครงการโซลาร์ต่างแดน 100-200 เมกะวัตต์ มองโอกาสขยายฐานใหญ่ พร้อมโชว์เงินสดพร้อมลุย 4 พันล้านบาท ฟากผู้บริหาร “วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์” ใส่เกียร์ลุย New S- curve สร้างฐานแกร่ง ปักเป้า 3 ปี รายได้ชน 500 ล้านบาท
นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SSP เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาโครงการพลังงานต่างประเทศ ซึ่งเป็นตลาดใหม่ในเอเชีย กำลังผลิตที่มองเป้าไว้คือ 100-200 เมกะวัตต์ โดยโครงการที่สนใจยังเป็นโครงการโซลาร์รูฟ บริษัทมองมีโอกาสจะขยายตลาดไปต่างประเทศได้โดยโครงการที่สนใจเป็นโครงการที่ต้องพัฒนาขึ้นมาใหม่หรือกรีนฟีล บริษัทมองว่าโครงการดังกล่าวจะเข้ามาเติมเต็มโครงการในพอร์ตให้เพิ่มขึ้น คาดจะเห็นความชัดเจนเร็วๆ นี้
ลุยโครงการนอก
บริษัทมีกำลังผลิตที่ COD แล้วอยู่ที่ 240 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นการลงทุนทั้งในไทย มองโกเลีย ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย เวียดนาม บริษัทคงเป้าใบอนุญาตกำลังลิตไฟฟ้าใน 2 ข้างหน้า (ปี 2568) เพิ่มเป็น 500 เมกะวัตต์ ทั้งนี้การขยายโครงการต่างประเทศมีโอกาสจะช่วยให้บริษัทมีใบอนุญาตได้ตามแผน เช่น ในเวียดนามตามแผนพัฒนาพลังงาน PDP8 ซึ่งบริษัทมองว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนทำให้พอร์ตกำลังผลิตเติบโตตามแผน
โดยเงินลงทุนในโครงการใหม่ๆ บริษัทวางแผนไว้แล้ว ทั้งจากเงินกู้สถาบันทางการเงินและเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัท อีกทั้งบริษัทมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งเรื่อยมา คาดเงินที่มีอยู่จะช่วยหนุนโครงการใหม่ให้เกิด และสร้างผลตอบแทนให้กับบริษัทได้ตามแผน บริษัทตั้งเป้าเงินลงทุนธุรกิจไฟฟ้า ทั้งการพัฒนาโครงการเอง และลงทุนโครงการที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) โรงไฟฟ้าแล้ว ไว้ประมาณ 3-4 พันล้านบาท
สำหรับโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาโครงการ คือโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ LEO 2 ในประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิต 22 เมกะวัตต์ และยังเป็นไปตามแผนคาดว่าจะ COD ได้ราวไตรมาส 2/2567
พุ่งเป้า New S- curve
อีกทั้งบริษัทจะเดินหน้าลุยธุรกิจใหม่ ซึ่งเป็น New S -curveให้กับบริษัท ล่าสุดบริษัทเข้าถือหุ้นของบริษัท สามารถ พลาสแพค จำกัด ในสัดส่วน 75% ซึ่งเป็นการซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิม และการเพิ่มทุนใหม่ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 140 ล้านบาท เพื่อลงทุนขยายกำลังการผลิต และปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักร ซึ่งในเฟสแรกจะผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบอ่อน ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอติดตั้งเครื่องจักร คาดจะเริ่มเดินเครื่องได้เต็มกำลังต้นปี 2567
ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าใน 3 ปีข้างหน้า (ปี2569) ธุรกิจผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกจะมีรายได้แตะ 500 ล้านบาท ขณะเดียวกันระหว่าง 3 ปี บริษัทจะพิจารณาการลงทุนใหม่ๆ เพื่อต่อยอดธุรกิจให้เติบโตเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้มูลค่าตลาดผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกในประเทศไทยมีมูลค่ารวมกว่า 2 แสนล้านบาท และยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตามการอุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งในปัจจุบันผู้บริโภคยังได้มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และให้ความสนใจในเรื่องของสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ทั้งในการนำกลับมาใช้ (Recycle) ผลิตภัณฑ์ที่ย่อยสลายง่าย เพื่อแก้ปัญหาเรื่องการลดมลภาวะ และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
นอกจากนี้ เทคโนโลยีการพิมพ์และการขึ้นรูปบรรจุภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมทันสมัย และสะดวกต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น ซึ่งตรงกับเป้าหมายการดำเนินธุรกิจของ SSP มองหาโอกาสในการลงทุนในธุรกิจใหม่ ที่มีโอกาสในการเติบโตที่ดี มีส่วนร่วมในการนำไปสู่ Net Zero ซึ่งจะเป็นประเด็นที่สำคัญเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต อนึ่ง 6 เดือนแรกปี 2566 บริษัทมีรายได้แล้วที่ 1,560.36 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 467.71 ล้านบาท