ไฟป่ากระหน่ำกรีซ-ตุรกี หลังอุณหภูมิพุ่งเกิน 45 องศาฯ

ประชาชนหลายพันคนในกรีซและตุรกีต้องเร่งอพยพจากบ้านเรือนของตัวเอง หลังเกิดไฟป่าหลายจุดที่ลุกลามรวดเร็วจากอิทธิพลของลมแรงและคลื่นความร้อนรุนแรง โดยอุณหภูมิในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้พุ่งสูงเกิน 40 องศาเซลเซียสต่อเนื่องเป็นวันที่ 7

รัฐบาลกรีซรายงานว่า หน่วยงานของรัฐต้องรับมือกับไฟป่าหลายสิบจุดทั่วประเทศพร้อม ๆ กัน โดยมีการระดมเจ้าหน้าที่ดับเพลิง อาสาสมัคร และเครื่องบินโปรยน้ำจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าร่วมควบคุมสถานการณ์ พร้อมยืนยันว่าจะมีมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากไฟป่าอย่างเต็มที่

ในกรีซ มี 11 ภูมิภาคถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงสุดต่อการเกิดไฟป่า รัฐบาลจึงได้ร้องขอความช่วยเหลือจากสหภาพยุโรป (EU) ขณะที่ไฟป่าในเขตไครโอเนอรี ใกล้กรุงเอเธนส์ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 2 นาย ได้รับการควบคุมแล้ว แต่ยังมีจุดที่น่าเป็นห่วงในเขตเมสสินีอา เกาะคีธีรา เอเวีย และครีต ซึ่งยังควบคุมไม่ได้

ล่าสุด หลายพื้นที่ถูกประกาศให้เข้าสู่ระดับเตือนภัย “สีแดง” หรือระดับสูงสุด เนื่องจากสภาพอากาศแห้งแล้งและอุณหภูมิที่พุ่งสูงเกิน 45°C ในบางจุด เช่น เมสสินีอาและเมืองแอมฟิโลเชียซึ่งกลายเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีให้กับไฟป่า

ส่วนบนเกาะคีธีรา ความเสียหายจากไฟป่าถูกประเมินว่า “รุนแรงเกินจะคำนวณได้” ทั้งบ้านเรือน และไร่มะกอกถูกไฟเผาทำลายแทบทั้งหมด โดยทีมดับเพลิงภาคพื้น อาสาสมัคร รถดับเพลิง 22 คัน เฮลิคอปเตอร์ 3 ลำ และเครื่องบินอีก 2 ลำ ได้รับมอบหมายให้หยุดยั้งการลุกลามของเพลิงในพื้นที่การเกษตรและป่าไม้ที่สำคัญท่ามกลางลมแรงระดับพายุ

ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงต้องอพยพทันที โดยมีผู้ที่ติดอยู่บนชายหาดจำนวน 139 คน รวมถึงนักท่องเที่ยว ได้รับการช่วยเหลือโดยเรือของหน่วยยามฝั่ง ส่วนสภาพอากาศยังคงไม่เป็นใจ โดยนักอุตุนิยมวิทยาคาดว่าลมแรงจะยังพัดผ่านเกาะคีธีราและครีตตั้งแต่เย็นวันอาทิตย์ถึงเย็นวันอังคาร ซึ่งจะส่งผลให้ไฟป่ายิ่งลุกลามได้ง่ายขึ้น

ขณะที่ตุรกีก็เผชิญสถานการณ์ไฟป่ารุนแรงไม่แพ้กัน โดยวัดอุณหภูมิได้สูงสุดถึง 50.5°C ที่จังหวัดเซอร์นัค ทางตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่ของประเทศ ประชาชนมากกว่า 1,700 คนต้องอพยพจากเมืองบูร์ซาเนื่องจากไฟป่าลุกลามเข้าสู่เขตชานเมือง

มีรายงานว่าเกิดไฟป่าถึง 76 จุดภายในเวลา 24 ชั่วโมงทั่วประเทศ ส่งผลให้ต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 1,100 นายร่วมปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 รายจากอาการหัวใจวายระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟป่ารอบนี้เพิ่มเป็น 14 ราย โดยในจำนวนนี้ 10 รายเป็นอาสากู้ภัยและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์เมื่อวันพุธ

สถานการณ์ในแอลเบเนียก็ไม่นิ่งเช่นกัน โดยมีไฟป่าหลายจุดในช่วงสุดสัปดาห์ ทำให้ประชาชนหลายพันคนต้องอพยพออกจากเมืองเดลวินา ทางตอนใต้ของประเทศอย่างเร่งด่วน