ฝ่ายบริหาร 'สหภาพยุโรป' กระตุ้นหารือใช้ข้อบังคับฉีดวัคซีนโควิด-19

บรัสเซลส์, 2 ธ.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันพุธ (1 ธ.ค.) อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวว่าสหภาพยุโรป (EU) ควรเริ่มหารือว่าข้อบังคับฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เป็นสิ่งจำเป็นหรือไม่ต่อการควบคุมยอดผู้ป่วยที่พุ่งสูงต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อ 1 ใน 3 ของประชากรในภูมิภาคยังไม่ได้ฉีดวัคซีน

ไลเอินรับรองว่าอำนาจการตัดสินใจเป็นของประเทศสมาชิก ขณะกล่าวย้ำว่ามีประชาชนในสหภาพยุโรปที่ยังไม่เข้ารับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อีกราว 150 ล้านคน

"ฉันว่ามันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้และเหมาะสมที่เราจะเริ่มหารือเกี่ยวกับการผลักดันหรือพิจารณาการใช้ข้อบังคับฉีดวัคซีนในสหภาพยุโรป เรามีวัคซีนซึ่งสามารถช่วยชีวิตคนได้ แต่มันกลับไม่ถูกใช้งานอย่างเต็มที่ในทุกพื้นที่" ฟอน แดร์ ไลเอินกล่าวระหว่างงานแถลงข่าว

ฟอน แดร์ ไลเอินระบุว่าไบออนเทค/ไฟเซอร์ ผู้ผลิตวัคซีนรายหลักของสหภาพยุโรป จะจัดสรรวัคซีนให้เด็กในภูมิภาคภายใน 2 สัปดาห์ พร้อมกล่าวว่ายังไม่มีข้อมูลมากพอเกี่ยวเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าเป็นภัยเสี่ยงสูง

"เราไม่มีข้อมูลที่ครบถ้วนเกี่ยวกับเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์นี้ แต่ก็รู้มากพอที่จะเป็นกังวล และจากประสบการณ์การรับมือสายพันธุ์เดลตา เรารู้ว่ามันเป็นการทำงานแข่งกับเวลา เราต้องเร่งดำเนินการก่อนจะได้รับข้อมูลเพิ่มเติมในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า ขณะนี้คณะนักวิทยาศาสตร์แถวหน้าของเราทำงานกันตลอดเวลา แต่สิ่งที่วิทยาศาสตร์ได้บอกเราแล้วคือการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสและโดสกระตุ้น ช่วยปกป้องเราจากเชื้อไวรัสฯ ได้"