ประชาชนอยากเห็นผู้นำแบบไหน? เปิดผลสำรวจความคาดหวังต่อสส. - นายกฯ

ในช่วงที่ประเทศไทยกำลังเผชิญทั้งภาวะเศรษฐกิจผันผวน ภัยพิบัติที่เกิดถี่ขึ้น และความไม่แน่นอนทางการเมือง “ผู้นำแบบไหน” จึงจะตอบโจทย์สถานการณ์ยุคนี้ เป็นคำถามสำคัญที่ “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต พยายามค้นหาคำตอบผ่านการสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศกว่า 1,186 คน ระหว่างวันที่ 2–5 ธันวาคม 2568 ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เพียงสะท้อนมุมมองต่อผู้สมัคร ส.ส. แต่ยังสะท้อนภาพความคาดหวังที่ชัดเจนต่อว่าที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไปของไทย

คุณสมบัติ ส.ส. ในสายตาประชาชน: “ซื่อสัตย์–ขยัน–ทำจริง” ยังคงเป็นหัวใจหลัก

โพลพบว่า ประชาชนให้ค่ากับ “ความจริงใจและการปฏิบัติได้จริง” เป็นอันดับหนึ่ง โดยให้คะแนนสูงถึง 9.46 จาก 10 รองลงมาคือ “ขยัน อดทน” (9.44) และ “ซื่อสัตย์” (9.42) ซึ่งสะท้อนความต้องการผู้นำที่เน้นการทำงานมากกว่าคำพูด ท่ามกลางบรรยากาศการเมืองที่ผู้คนเริ่มหมดความเชื่อมั่นในคำสัญญาแบบเดิม ๆ

นอกจากนี้ “ความสามารถในการบริหารสถานการณ์วิกฤต” ยังถูกให้คะแนนสูงถึง 9.41 ชี้ว่าประชาชนให้ความสำคัญกับผู้นำที่รับมือเหตุการณ์ฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ปัจจัยด้านอายุ เพศ และชื่อเสียง กลายเป็นสิ่งที่มีความสำคัญน้อยที่สุดในสายตาผู้ตอบแบบสอบถาม

3 คุณลักษณะสำคัญที่ประชาชนอยากให้ผู้นำประเทศต้องมี

เมื่อเจาะลึกถึงลักษณะของ “นายกรัฐมนตรีในอุดมคติ” ผลสำรวจพบว่ามีองค์ประกอบสำคัญ 3 ประการ  ได้แก่ อุดมการณ์ก้าวหน้า มีวิสัยทัศน์ กล้าคิด กล้าทำ และพร้อมผลักดันความเปลี่ยนแปลง (40.71%) , ไม่เล่นเกมการเมือง ทำงานเพื่อประชาชนมาก่อนผลประโยชน์ทางการเมือง (30.09%) , ไม่โกง ไม่เทา ซื่อสัตย์สุจริต คือความคาดหวังพื้นฐานที่สังคมต้องการเห็น (29.20%)

ความหมายของตัวเลข: กระแสความคาดหวังใหม่ในยุคเปลี่ยนผ่าน

น.ส.พรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า ผลสำรวจครั้งนี้ สะท้อนบริบทที่คนไทยกำลังเผชิญ ไม่ว่าจะเป็น เศรษฐกิจ ภัยพิบัติ และความผันผวนทางการเมือง จึงทำให้ "ความสามารถในการบริหารจัดการสถานการณ์วิกฤต" กลายเป็นอีกคุณสมบัติสำคัญที่ประชาชนมองหาในตัวผู้แทน

ด้านคุณสมบัตินายกรัฐมนตรี เห็นชัดว่ามีองค์ประกอบหลัก 4 ประการ หรือ "4 ก." ได้แก่ อุดมการณ์ ก้าวหน้า ไม่เล่นเกม และ ไม่โกง ซึ่งบ่งบอกถึงความคาดหวังต่อผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ พร้อมเปลี่ยนแปลง และไม่ต้องการการเมืองแบบเดิมที่เป็นภาระต่อการพัฒนา