เตรียมสถานที่อัญเชิญ “พระเขี้ยวแก้ว” สานสัมพันธ์การทูตไทย - จีน
เมื่อเวลา 14.00 น. นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการประสานงานการดำเนินโครงการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) พร้อมด้วย นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายภูมินทร ปลั่งสมบัติ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.ต. ธวัช วงศ์สง่า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลนำคณะสื่อมวลชนสำรวจพื้นที่การเตรียมการอัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากสาธารณรัฐประชาชนจีนมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย ที่ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง
โดยการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว)มาประดิษฐานในประเทศไทยครั้งนี้ เป็นการสานต่อมิตรภาพอันยาวนานระหว่างไทยกับจีน ผ่านสายสัมพันธ์ทางพระพุทธศาสนา ซึ่งรัฐบาลไทยและรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนได้เห็นชอบร่วมกันในการอัญเชิญ พระเขี้ยวแก้ว จากวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐาน ณ ประเทศไทย เป็นการชั่วคราว
เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในโอกาส การครบรอบ 50 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - จีน ใน ปี2568
ซึ่งพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มาถึงประเทศไทย ในวันที่ 4 ธันวาคม 2567 ณ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 เมื่อมาถึงจะมีการจัดพิธีทางศาสนา และจัดขบวนรถอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ(พระเขี้ยวแก้ว) ออกจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ผ่านเส้นทางเยาวราช เข้าสู่ถนนราชดำเนินไปยังลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์จากนั้นจัดริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ซึ่งจะเริ่มเคลื่อนขบวนจากลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ในเวลา 17.00 น. เพื่อไปยังมณฑลพิธีท้องสนามหลวงและประกอบพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว)ขึ้นประดิษฐานที่มณฑป
ในการนี้ รัฐบาลขอเชิญชวนประชาชนสักการะ พระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ได้ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2567 - 14 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 07.00 น. - 20.00 น. เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมดอกไม้สักการะและโปสการ์ดพร้อมบทสวดบูชาพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว)มอบให้ประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว)รวมเป็นเวลา 73 วัน ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และจะอัญเชิญกลับในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568(เมื่อวันที่ 28 พ.ย.67)
ภาพโดย: ธนาชัย ประมาณพาณิชย์