แนวร่วมปัญจ์ชีร์ “พร้อมคุยสันติ” หลังตาลิบันปะทะเดือด-คร่าผบ.ฝ่ายต้าน
แนวร่วมปัญจ์ชีร์ “พร้อมคุยสันติ” - วันที่ 6 ก.ย. บีบีซี รายงานความคืบหน้าสถานการณ์ความไม่สงบในอัฟกานิสถานว่า นายอาหมัด มาซูด ผู้นำแนวร่วมต่อต้านแห่งชาติอัฟกานิสถาน (เอ็นอาร์เอฟ) ในพื้นที่ หุบเขาปัญจ์ชีร์ ฐานที่มั่นสุดท้ายของฝ่ายต่อต้านกองกำลังตาลิบัน ระบุว่าพร้อมจะหารือสันติภาพกับกลุ่มติดอาวุธ
ภายหลังโฆษกกองกำลังตาลิบันระบุผ่านทวิตเตอร์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 ก.ย.ตามเวลาท้องถิ่นว่า นักรบตาลิบันเปิดฉากปะทะและบุกยึดสำนักงานใหญ่ตำรวจ รวมทั้งศูนย์กลางของเขตรูคาห์ ใกล้เมืองบาซารัก เมืองเอกของจังหวัดปัญจ์ชีร์ ส่งผลให้กองกำลังเอ็นอาร์เอฟได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก
นายมาซูดประกาศบนเพจเฟซบุ๊กของแนวร่วมต่อต้านว่า “ตามหลักการแล้วเอ็นอาร์เอฟตกลงว่าจะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและจะยุติการต่อสู้ในทันที รวมถึงดำเนินการเจรจาต่อไปเพื่อให้เกิดสันติภาพที่ยั่งยืน เอ็นอาร์เอฟพร้อมจะหยุดการต่อสู้โดยมีเงื่อนไขว่ากลุ่มตาลิบันจะหยุดการโจมตีและการเคลื่อนไหวของกองกำลังในหุบเขาปัญจ์ชีร์และอันดารับ” นายมาซูดระบุถึงพื้นที่ใกล้เคียงในจังหวัดแบกห์ลัน
ก่อนหน้านี้ตาลิบันเผยแพร่ข้อความเบี่ยงเบนความสนใจว่าแนวร่วมเอ็นอาร์เอฟต่อสู้และผลักดันกองกำลังตาลิบันเข้าไปในพื้นที่อื่นของหุบเขา นอกจากนี้ยังระบุว่า นายฟาฮิม ดาชติ โฆษกแนวร่วมเอ็นอาร์เอฟ และ พลเอกอับดุล วูดอด ซารา ผู้บัญชาการของเอ็นอาร์เอฟ เสียชีวิตในการปะทะ ส่วนตาลิบันมีผู้เสียชีวิตเช่นกัน ทราบในเวลาต่อมาว่าเป็นนายพลระดับสูง 1 ราย และนักรบอารักขาอีก 13 ราย
ขณะเดียวกัน นายมาร์ติน กริฟฟิธส์ รองเลขาธิการฝ่ายประสานงานด้านมนุษยธรรมและบรรเทาทุกข์ฉุกเฉิน สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (UN OCHA) ซึ่งเดินทางไปหารือกับนายมุลเลาะห์ อับดุล กานี บาราดาร์ หัวหน้าฝ่ายการเมืองของตาลิบัน และเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่กรุงคาบูล เมื่อวันที่ 5 ก.ย. เรียกร้องให้กองกำลังตาลิบันปกป้องพลเรือนทุกคน โดยเฉพาะผู้หญิง เด็กผู้หญิง และชนกลุ่มน้อย
นายบาราดาร์ได้ให้คำมั่นว่าจะอนุญาตให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าถึงประชาชนทุกคนในอัฟกานิสถาน และจะรับประกันเสรีภาพในการเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ด้านมนุษยธรรมทุกคน ซึ่งข้อมูลของสหประชาชาติระบุว่ามีชาวอัฟกานิสถานกว่า 18 ล้านคนหรือเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งหมด ต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน
ด้านโฆษกตาลิบันกล่าวว่า “คณะผู้แทนสหประชาชาติให้คำมั่นว่าจะช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวอัฟกานิสถานต่อไป และว่าจะเรียกร้องให้มีการช่วยเหลือเพิ่มเติมในการประชุมประเทศผู้บริจาคที่กำลังจะจัดขึ้น ในส่วนของตาลิบันนั้นเราขอรับรองผู้แทนสหประชาชาติว่าจะให้ความร่วมมือและจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นให้
วันเดียวกันมีข่าวว่านางบานู เนการ์ ตำรวจหญิงท้องแก่อายุครรภ์กว่า 8 เดือนในเมืองฟิโรซโคห์ จังหวัดกอร์ ทางภาคตะวันตก ถูกนักรบตาลิบันยิงเสียชีวิต โดยแหล่งข่าวและพยานผู้เห็นเหตุการณ์ 3 คนให้สัมภาษณ์ว่าเจ้าหน้าที่เนการ์ถูกนักรบตาลิบันทำร้ายและฆ่าต่อหน้าต่อตาสามีและลูกๆ
ท่ามกลางความกังวลว่าตาลิบันจะไม่รักษาสัญญาที่ประกาศว่าจะเคารพสิทธิสตรี ทั้งยังเกิดขึ้นหลังการใช้กำลัง แก๊สน้ำตา และด้ามปืนตีศีรษะผู้ชุมนุมหญิงที่ร่วมการประท้วงเรียกร้องสิทธิในกรุงคาบูลเมื่อวันเสาร์ที่ 4 ก.ย. อย่างไรก็ตาม โฆษกตาลิบันแถลงปฏิเสธและยืนกรานว่าตาลิบันไม่ได้ฆ่าตำรวจหญิงรายนี้ พร้อมระบุว่ากำลังเร่งตรวจสอบกรณีดังกล่าว