ลูกจ้างโรงเรียน ผู้ประกันตน ม.33 โวยชวดรับเยียวยาทุกโครงการ ทั้งที่เดือดร้อนจากโควิด-19
มหาสารคาม – ลูกจ้างโรงเรียน กลุ่มผู้ประกันตน ม.33 โวยไม่ได้รับเยียวยาทุกมาตรการช่วยเหลือ ทั้งที่เป็นผู้เดือดร้อนจากโควิด-19
ลูกจ้างชั่วคราวสถานศึกษา กลุ่มผู้ประกันตนมาตรา 33 โวยไม่ได้รับเยียวยาทุกมาตรการช่วยเหลือของะรัฐบาล ทั้งที่เป็นผู้เดือนร้อนจากโควิด-19 โดนลดวันทำงาน ลดเงินเดือนแต่รายจ่ายเท่าเดิม หนี้สินต้องใช้ กระทบความเป็นอยู่ครอบครัว วอนประกันสังคมปรับเกณฑ์และให้สิทธิ์รับเงินเยียวยาบ้าง
กลุ่มผู้ประกันตนมาตรา 33 ซึ่งเป็นลูกจ้างชั่วคราวในสถานศึกษา อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน กรณี ถูกตัดสิทธิ์การรับเงินเยียวยาจากมาตรการการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด 19 ซึ่งมีทั้งมาตรการเยียวยาเราไม่ทิ้งกัน และเยียวยาเกษตรกร 3 เดือน เป็นเงินมาตรการละ 15,000 บาท กลุ่มผู้ประกันตนตามมาตรา 33 กลับถูกตัดสิทธิ์ เนื่องจากไม่เข้าเกณฑ์ตามที่รัฐกำหนด ทำให้ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งรัฐบาลอาจเข้าใจคลาดเลื่อนเกี่ยวกับผู้ประกันตนว่าได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานประกันสังคม
นางธัญชนก ยางจันทร์ ผู้ประกันตนมาตรา 33 ลูกจ้างชั่วคราวในสถานศึกษา กล่าวว่า พวกตนเป็นกลุ่มผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ต้องออกมาเรียกร้องสิทธิ์ เพราะถูกรัฐตัดสิทธิ์ทุกทาง ไม่ว่าจะเป็นโครงการเราไม่ทิ้งกัน และเงินเยียวยาเกษตรกร ซึ่งกลุ่มตนเป็นกลุ่มผู้ประกันตนมาตรา 33 ในสถานศึกษา ใน 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.วาปีปทุม นาดูน ยางสีสุราช พยัคฆภูมิพิสัย และนาเชือก รวมแล้วกว่า 500 คน ก็ถือว่าเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงมากในสภาวะแบบนี้ เพราะไม่ได้ถูกให้พักงานหรือหยุดงาน โดยสถานศึกษายังให้มาทำงานตามปกติ แต่อาจต้องลดวันทำงานลง ทำให้กระทบกับการรับรายได้ที่โรงเรียนจะจ่ายตอบแทนเป็นรายวัน
ซึ่งลูกจ้างเกือบทั้งหมดจากการสอบถามพบว่าบางรายได้รับค่าจ้างเพียง 50 เปอร์เซ็นต์ หรือบางคนได้รับเงินตอบแทนต่อเดือนเหลือ 1 ใน 4 เท่านั้น ทำให้กระทบรายได้ของครอบครัว กระทบความเป็นอยู่กันไปหมด เมื่อปัญหานี้เกิดขึ้นทำลูกจ้างในโรงเรียนเดือนร้อนมากขึ้น จึงได้รวมตัวกันไปถามที่ประกันสังคมจังหวัดและหน่วยงานกระทรวงเกษตรในพื้นที่ แต่ก็ไม่มีคำตอบ บอกแต่เพียงว่า กระทรวงการคลังเป็นผู้อนุมัติว่าใครจะได้หรือไม่ได้
ตนอยากถามประกันสังคมว่า ทำความเข้าใจกับรัฐบาลอย่างไรให้รัฐบาลเข้าใจว่า พวกตนได้รับเงินเยียวยาจากประกันสังคม ทั้งที่ไม่ใช่ เงินประกันสังคมคือ เงินของผู้ประกันตนจ่ายทุกเดือน ๆ เป็นเงินของผู้ประกันตนเอง ไม่ใช่เงินเยียวยา เพราะฉะนั้นประกันสังคมน่าจะทำความเข้าใจกับรัฐบาลว่าพวกตนก็ควรที่จะมีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยาเหมือนคนอื่น ๆ เพราะพวกตนก็เป็นคนไทย
อีกทั้งก่อนหน้านี้คนใกล้บ้านที่เป็นข้าราชการ และขึ้นทะเบียนเกษตรกรไว้ ก็ได้รับเงินเยียวยาเกษตรกร 5,000 บาท ซึ่งเงินก็เข้าวันแรกคือวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา ข้าราชการท้องถิ่นบางคนก็ได้รับเงินเยียวยาโครงการเราไม่ทิ้งกันกัน 5,000 บาท ตรงนี้จะมีการตรวจสอบอย่างไร อยากให้นึกถึงความเป็นจริงว่ามันจะตรวจสอบได้หรือไม่ในเมื่อเงินก็โอนไปแล้ว
หากจะถามว่ารู้สึกอย่างไร ตอบว่าน้อยใจ เป็นคนไทยทำไมถึงถูกตัดสิทธิ์ พวกตนทำงานจ่ายเงินจ่ายภาษีให้กับรัฐทุกเดือน เอาเกณฑ์อะไรมาวัด ซึ่งเป็นคำถามที่อยากฝากไปถึงผู้มีอำนาจหรือผู้มีสิทธิ์อนุมัติตรงนี้ ว่าทำไมถึงมาตัดสิทธิ์พวกตน ซึ่งส่งกระทบต่อจิตใจ เป็นความเหลื่อมล้ำทางจิตใจ น้อยเนื้อต่ำใจ ขาดขวัญกำลังใจ ทำงานท่ามกลางภาวะความเสี่ยง บางคนที่เป็นลูกจ้างเอกชน ถูกพักงาน ถูกลดวันทำงาน เป็นลูกจ้างรายวัน ก็ทำให้รายได้ลดลง แต่มีรายจ่ายเท่าเดิม จึงอยากให้ประกันสังคมทำความเข้าใจใหม่กับรัฐบาล และอยากให้ช่วยเหลือได้รับเงินเยียวยาเหมือนประชาชนคนไทยคนอื่น ๆ