สถิติเด็กจมน้ำดับอันดับ1ของประเทศ 'ขอนแก่น' เร่งฝึกว่ายน้ำช่วยน.ร.เอาตัวรอด
21 ก.ค. ที่โรงเรียนสนามบินขอนแก่น นายสุเทพ มณีโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดการฝึกทักษะว่ายน้ำเพื่อป้องกันการจมน้ำ” โดยกรมพลศึกษาร่วมกับ จังหวัดขอนแก่น และสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดขอนแก่น ตลอดจนภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจัดขึ้น เพื่อส่งเสริมให้เด็กเยาวชน มีทักษะการว่ายน้ำ สามารถเอาชีวิตรอดจากการจมน้ำ และรู้หลักการใช้อุปกรณ์ในการช่วยชีวิตผู้ประสบภัยทางน้ำได้
นายสุรสิทธิ์ สิงห์หลง ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า จากข้อมูลสถิติการรายงานการจมน้ำระดับโลก ขององค์การอนามัยโลก ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยพบว่า การจมน้ำเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมเพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านการออกกำลังกาย ซึ่งเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญอันจะนำไปสู่ผลลัพธ์ด้านสุขภาพของเด็กวัยเรียนให้มีภาวะการเจริญเติบโตที่ระดับ “สูงดีสมส่วน” ได้ การดำเนินงานโครงการฯ นี้ อ้างอิงหลักสูตรว่ายน้ำเพื่อเอาชีวิตรอดและคู่มือการสอนจากสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ประกอบด้วย ความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยทางน้ำ การเอาชีวิตรอดและพื้นฐานการว่ายน้ำ ทักษะพื้นฐานการว่ายน้ำ และการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ รวมหลักสูตร 16ชั่วโมง โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็น เด็กวัยเรียน อายุตั้งแต่ 6-14 ปี จำนวนทั้งหมด 240 คน
รองผู้ว่าฯขอนแก่น กล่าวว่า การดำเนินงานโครงการฯ มีการบูรณาการในการจัดกิจกรรมร่วมกันระหว่างหน่วยงาน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กวัยเรียน กลุ่มเป้าหมายเป็นโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ในจังหวัดขอนแก่น เพื่อเป็นการสร้างองค์ความรู้และพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชนของจังหวัดขอนแก่นให้มีทักษะการว่ายน้ำขั้นพื้นฐาน ร่างกายแข็งแรง สมบูรณ์ จิตใจสดชื่นแจ่มใส ส่งผลถึงการพัฒนาสติปัญญาของเด็กวัยเรียน อีกทั้ง การว่ายน้ำเป็นกิจกรรมการออกกำลังกายที่มีประโยชน์ต่อร่างกายทุกส่วน เสริมสร้างความยืดหยุ่นให้กับร่างกาย กล้ามเนื้อทุกมัดให้ได้ถูกใช้งานเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจทำให้ร่างกายแข็งแรง ทั้งยังปรับบุคลิกภาพช่วยให้เคลื่อนไหวร่างกายได้ดีขึ้น นำไปสู่ผลของการเจริญเติบโตและภาวะสูงดี สมส่วน ในเด็กวัยเรียนได้ การจัดกิจกรรมโครงการฯ นี้ สื่อให้เห็นถึงการให้ความสำคัญของหลักสูตรการเอาตัวรอดจากการจมน้ำ สามารถช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นให้รอดจากการจมน้ำได้ ทั้งยังสามารถพัฒนาทักษะสู่การทำกิจกรรมหรือเล่นกีฬาชนิดอื่นได้ ซึ่งเป็นโครงการที่ดียิ่งสำหรับเด็กและเยาวชน อีกทั้งควรได้รับการฝึกอบรม และฝึกฝนอย่างเป็นประจำและต่อเนื่องต่อไป