รีเซต

วิกฤตซ้อนวิกฤต น้ำท่วมใหญ่หาดใหญ่ ที่เผยให้เห็นรอยร้าวระหว่างเจ้าหน้าที่กับชุมชน

วิกฤตซ้อนวิกฤต น้ำท่วมใหญ่หาดใหญ่ ที่เผยให้เห็นรอยร้าวระหว่างเจ้าหน้าที่กับชุมชน
TNN ช่อง16
27 พฤศจิกายน 2568 ( 14:43 )
2

ภารกิจทีมกู้ภัยท่ามกลางความขัดแย้ง

สถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ช่วงวันที่ 22 ถึง 27 พฤศจิกายน 2568 ทำให้หลายพื้นที่ถูกตัดขาดและเกิดปัญหาการเข้าถึงประชาชนที่ติดค้างจำนวนมาก ท่ามกลางการเร่งช่วยเหลือของทีมกู้ภัยจากทั่วประเทศกลับปรากฏเหตุความขัดแย้งระหว่างเจ้าหน้าที่และประชาชนบางส่วน จนกลายเป็นประเด็นสำคัญที่ส่งผลต่อการปฏิบัติภารกิจของทีมช่วยเหลือในภาคสนาม

เหตุยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่สร้างแรงกดดันต่อการทำงาน

วันที่ 25 พฤศจิกายน เจ้าหน้าที่กู้ภัยเอกชนถูกยิงไล่สามนัดระหว่างขับเจ็ตสกีเข้าไปช่วยผู้ประสบภัย เหตุการณ์เกิดขึ้นระหว่างที่ทีมพยายามนำอาหารและผู้ประสบภัยออกจากจุดเสี่ยง ทำให้ต้องหยุดภารกิจและถอนเรือออกจากพื้นที่ทันที

ฝั่งกู้ภัยอธิบายว่า การเข้าไม่ถึงทุกชุมชนไม่ใช่เพราะละเลย แต่เกิดจากข้อจำกัดเชิงทรัพยากร เช่น ข้าวกล่องที่มีเพียงสามร้อยกล่องต้องกระจายหลายเส้นทาง การเคลื่อนตัวในน้ำเชี่ยวต้องใช้ความระมัดระวังสูง และบางพื้นที่ต้องเลือกช่วยผู้ที่ติดค้างมาหลายวันก่อน จึงไม่สามารถตอบสนองทุกจุดพร้อมกันได้

ต่อมา มีหญิงรายหนึ่งออกมาแสดงตัวในโลกออนไลน์ว่าเป็นผู้ยิงปืน โดยอ้างว่าการขับเจ็ตสกีใกล้บ้านทำให้กระจกเกือบแตก และเธอยืนยันว่าไม่ต้องการความช่วยเหลือ อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริงหรือไม่ แต่ประเด็นดังกล่าวได้ทำให้เกิดกระแสถกเถียงในสังคมอย่างกว้างขวาง

ทหารภาค 4 ชี้แจงและกำหนดมาตรการเข้าพื้นที่

พลโท นรธิป โพยนอก แม่ทัพภาคที่ 4 ชี้แจงว่า ทหารไม่ได้ถูกยิงเสียชีวิตตามที่มีข่าวลือ เหตุการณ์ที่เกิดเป็นเรื่องขัดแย้งระหว่างภาคเอกชนกับประชาชนบางส่วน พร้อมระบุว่ากำลังเร่งแก้ปัญหาเสถียรภาพในการทำงานของทีมกู้ภัย

เพื่อป้องกันความซ้ำซ้อนในการสั่งการและสร้างความปลอดภัยให้หน่วยงานที่เข้าพื้นที่ ทหารกำหนดให้เจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร และกลุ่มกู้ภัยทุกชุดต้องมารายงานตัวที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัยส่วนหน้า หรือ ศป.กฉ.ส่วนหน้า ที่กองบิน 56 จังหวัดสงขลา เพื่อทำงานแบบมีระบบพร้อมประสานกับผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และผู้บังคับบัญชาในพื้นที่

สำหรับประเด็นประชาชนครอบครองอาวุธปืนในระหว่างช่วงประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กองทัพระบุว่าจะนำเข้าในที่ประชุมเพื่อกำหนดมาตรการป้องกันความเสี่ยงเพิ่มเติม

กระแสน้ำเชี่ยวและอุบัติเหตุซ้ำเติมการทำงาน

การปฏิบัติภารกิจครั้งนี้เผชิญข้อจำกัดด้านภูมิประเทศอย่างหนัก หลายจุดในอำเภอหาดใหญ่มีน้ำไหลแรงจนเรือหลายลำไม่สามารถเข้าไปถึง บางพื้นที่ระดับน้ำสูงจนทีมต้องใช้เจ็ตสกีหรือโดรนแทนการนำเรือเข้าไปโดยตรง

เกิดอุบัติเหตุอย่างกรณีเรือกู้ภัยพลิกคว่ำเพราะกระแสน้ำแรง ส่งผลให้ข้าวกล่องกว่า 200 กล่องสูญหาย เด็กคนหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุยังถูกน้ำดูดจนเสื้อชูชีพหลุด เบื้องต้นทีมอาสามูลนิธิและกู้ภัยยังคงเดินหน้าเข้าช่วยเหลือตามแผน แม้ต้องรับมือทั้งอุปสรรคในน้ำและความกดดันจากเหตุการณ์ก่อนหน้า


ผลสำเร็จของทีมกู้ภัยท่ามกลางความกดดัน

แม้จะมีความเสี่ยงและความขัดแย้ง ทีมกู้ภัยหลายหน่วยยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อเนื่อง ระหว่างวันที่ 25 ถึง 26 พฤศจิกายน เจ้าหน้าที่สามารถอพยพประชาชนได้กว่า 500 คนจากหลายชุมชนที่ถูกตัดขาด

หน่วยกู้ภัยจากจังหวัดต่างๆ เช่น เชียงใหม่ เดินทางไกลกว่า 1,700 กิโลเมตร เพื่อช่วยผู้ที่ติดอยู่ในบ้านชั้นเดียวหลายวัน ขณะที่มูลนิธิเพชรเกษมลงพื้นที่กลางดึกในย่านตลาดหาดใหญ่ ส่งอาหารและน้ำให้ผู้ที่รอความช่วยเหลือกว่า 5 วัน

ด้านเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญ สมาคมตอบโต้ภัยพิบัติร่วมกับบริษัทโดรนการเกษตรและกรมการค้าข้าว นำโดรนติดสปอตไลต์ส่งอาหารในพื้นที่ที่เรือไม่สามารถเข้าไปถึง ส่วนการลำเลียงผู้ป่วยหนักออกจากโรงพยาบาลหาดใหญ่ดำเนินการด้วยเฮลิคอปเตอร์ 3 ลำ หลังไฟฟ้าและระบบสนับสนุนถูกน้ำท่วมจนใช้การไม่ได้

โครงสร้างบัญชาการที่ต้องปรับให้ทันสถานการณ์

การตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัยส่วนหน้าในจังหวัดสงขลา มีเป้าหมายเพื่อรวมศูนย์การสั่งการ โดยแบ่งอำเภอหาดใหญ่ออกเป็น 4 เขตรับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าการมีหน่วยสั่งการหลายระดับทั้ง ศนภ. ส่วนกลาง ปภ. และฝ่ายทหาร อาจทำให้เกิดปัญหาความซ้ำซ้อนและการประสานงานที่ขาดเอกภาพ

นักวิชาการด้านนโยบายด้านภัยพิบัติระบุว่า ระบบสั่งการจำเป็นต้องมี “ศูนย์เดียว” ในการประสานข้อมูล เพื่อให้การเคลื่อนย้ายทรัพยากรเป็นไปอย่างรวดเร็วและลดปัญหาการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนขณะเกิดภัยจริง


ความร่วมมือของทุกภาคส่วนยังเป็นแรงหลักในภารกิจ

ภารกิจในครั้งนี้มีทั้งเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ภาคเอกชน และอาสาสมัครรวมกว่า 444 นาย เรือและเจ็ตสกีกว่า 180 ลำ จากหลากหลายหน่วยงาน ทั้งกรมทรัพยากรทางทะเลฯ รวมถึงมูลนิธิและทีมกู้ภัยทั่วประเทศ

ในระบบการแพทย์ มีการขนย้ายผู้ป่วยจากโรงพยาบาลหาดใหญ่กว่า 500 รายไปยังโรงพยาบาลอื่น โดยกองทัพภาคที่ 4 สนับสนุนเรือ รถบรรทุก และกำลังคนในการอพยพอุปกรณ์ทางการแพทย์ ออกซิเจน และอาหาร 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง