5 ประเทศเสี่ยงหายจากแผนที่โลก เหตุโลกร้อนรุนแรงทำน้ำทะเลสูง

ภาวะโลกร้อนไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่เป็นภัยคุกคามที่อาจเปลี่ยนแปลงแผนที่โลก นักวิทยาศาสตร์เตือนว่าภายในปี 2050 ประเทศบางประเทศอาจสูญหายไปจากแผนที่โลก ไม่ใช่เพราะสงครามหรือความขัดแย้ง แต่เพราะระดับน้ำทะเลสูงขึ้นและผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แม้ว่าประเทศจะไม่หายไปทั้งหมด แต่พื้นที่ดินของหลายประเทศอาจถูกน้ำทะเลกลืนหาย ทำให้วิถีชีวิต ประชากร และเศรษฐกิจต้องปรับตัวอย่างมาก
มัลดีฟส์
เป็นประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรอินเดีย มีเกาะนับร้อยที่ส่วนใหญ่สูงจากระดับน้ำทะเลไม่เกิน 1 เมตร น้ำทะเลสูงขึ้นปีละ 2.3 มม. ทำให้เกาะหลายแห่งเสี่ยงต่อการจมอย่างรวดเร็ว เศรษฐกิจพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก และส่วนใหญ่ของชุมชนตั้งอยู่เพียง 100 เมตรจากชายฝั่ง รัฐบาลจึงเร่งสร้างเกาะเทียมและย้ายประชากรไปยังพื้นที่สูงเพื่อป้องกันภัยพิบัติ
เวียดนาม
เผชิญอันตรายจากน้ำทะเลสูงและการปนเปื้อนน้ำเค็มในพื้นที่นาข้าว ซึ่งเป็นแหล่งอาหารและรายได้สำคัญของประเทศ หากน้ำทะเลสูงขึ้นต่อเนื่อง จะทำให้นาข้าวเสียหายและกระทบต่อความมั่นคงทางอาหาร อุณหภูมิที่คาดว่าจะสูงขึ้น 3 องศาเซลเซียส จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมและภัยแล้ง ทำให้เวียดนามอาจสูญเสียพื้นที่สำคัญทางการเกษตรและที่อยู่อาศัย
ซามัว
เป็นเกาะทั้งเจ็ดในมหาสมุทรแปซิฟิก ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นปีละ 4 มม. น้ำทะเลอุ่นขึ้นทำลายแนวปะการังที่ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันธรรมชาติ ปะการังที่ถูกทำลายทำให้ชายฝั่งเสี่ยงต่อการกัดเซาะและน้ำท่วมบ่อยขึ้น ซามัวจึงมีโอกาสสูงที่จะสูญเสียเกาะบางส่วนหรือถูกน้ำทะเลกลืน
ฟิจิ
เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกเช่นกัน ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นปีละ 6 มม. ทำให้บางหมู่บ้าน เช่น Vunidogoloa ต้องย้ายไปยังพื้นที่สูงกว่า รายงานของธนาคารโลกระบุว่าหมู่บ้านบางแห่งสูญเสียพื้นที่ 15–20 เมตร เนื่องจากต้นไม้ป่าชายเลนถูกกัดเซาะ น้ำทะเลสูงและพายุที่รุนแรงเพิ่มความเสี่ยงต่อวิถีชีวิตและเศรษฐกิจ
หมู่เกาะโซโลมอน
มีเกาะกว่า 990 เกาะ ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นปีละ 8 มม. ขณะนี้เกาะ 5 เกาะจมอยู่ใต้น้ำแล้ว และอีก 6 เกาะจมไป 20% แนวทางการแก้ไขคือการย้ายประชากร สัตว์ และพืชไปยังพื้นที่สูงกว่า แต่หากภาวะโลกร้อนดำเนินต่อไป ประเทศนี้อาจเป็นประเทศแรกที่ “สูญหาย” จากแผนที่โลกจริงๆ
หลายประเทศที่เป็นเกาะหรือพื้นที่ต่ำกำลังเผชิญความเสี่ยงร้ายแรงจากน้ำทะเลสูงขึ้น ภาวะโลกร้อนและผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ อาจทำให้บางประเทศสูญเสียพื้นที่ดินอย่างมากภายในปี 2050 เหตุการณ์เหล่านี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นสัญญาณเตือนว่าการแก้ไขภาวะโลกร้อนและการปรับตัวของมนุษย์ต่อสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องเร่งด่วน
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
