กทม. เร่งหาอีก 7 ร่าง พร้อมใกล้ปิดงานค้นหาผู้สูญหาย สตง. สัปดาห์หน้า

รศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายในตึก สตง. ขณะนี้สามารถเคลียร์พื้นที่ได้เกือบทั้งหมดแล้ว โดยเมื่อวานนี้ได้มีการเคลียร์เปิดปล่องลิฟต์ได้ 4 จุด จาก 6 จุด โดยปล่องลิฟต์ที่เหลือ 2 ปล่อง เป็นไฟแมนลิฟต์ที่ใช้ขนของ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันนี้ หลักปฏิบัติการไม่พบร่างของผู้สูญหายเพิ่มเติม แต่พบชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์ ขณะที่โซน B มีการใช้สุนัข K9 ดมกลิ่น ระบุตำแหน่งพิกัดที่อาจจะพบร่างของผู้สูญหายนั้น เมื่อเปิดพื้นที่ไปแล้วพบว่า กลิ่นที่สุนัขระบุพิกัดดังกล่าว เป็นจุดทานอาหารซึ่งพบอาหารจำนวนมากอยู่บริเวณนั้น และยังพบอุปกรณ์ เช่น กระเป๋า และชิ้นส่วนเสื้อผ้า ของผู้ประสบภัยเพิ่มเติม
คาดว่าในวันพรุ่งนี้จะสามารถเปิดพื้นที่เข้าได้ครบทุกโซน และยังคงใช้การค้นหาอย่างละเอียด สำหรับการใช้เครื่องจักรหนัก ที่ยังมีอยู่จำนวน 28 คัน ในการเปิดพื้นที่จะยังคงเคลื่อนย้ายเครื่องจักรแต่จะเบากำลังลง แม้จะเปิดพื้นที่ได้ทั้งหมดแต่ยังมีกองดิน กองปูน เหลืออยู่
โดยหลังจากกระบวนการเปิดพื้นที่ได้ครบทั้งหมดแล้วก็จะ เป็นขั้นตอนของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานที่จะดำเนินการสอบข้อเท็จจริง โดย กทม. พร้อมที่จะสามารถจัดสรรเครื่องจักรสนับสนุนการทำงานต่อไป
ทั้งนี้การเปิดพื้นที่ทุกโซน ตั้งอยู่บนสมมุติฐานของการเจอร่างของผู้สูญหาย แม้จะพบชิ้นส่วนของร่างกายมนุษย์ น้อยแต่สามารถนำมาประกอบร่างสมบูรณ์เพื่อพิสูจน์ยืนยันตัวตนได้ หลังจาก เปิดพื้นที่ครบทั้งหมดทุกส่วนแล้วก็จะเกลี่ยกองดินให้เท่ากัน คาดว่าจะสรุปปฏิบัติการค้นหาร่างผู้สูญหายได้ภายในอาทิตย์หน้า ส่วนการพิสูจน์อัตลักษณ์ ที่มีชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์อยู่ที่นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจกว่า 300 ชิ้นนั้น แม้จะปฏิบัติการค้นหาร่างของผู้สูญหายจบสิ้นแต่ก็ยังคงมีกระบวนการพิสูจน์อัตลักษณ์ยืนยันตัวบุคคล ยังต้องดำเนินการต่อไป
สำหรับยอดของผู้ประสบภัย กทม. เผยยอดผู้สูญหายเหลือ 7 ราย หลังตำรวจสืบพบว่า มี 4 คนไม่อยู่ในอาคาร สตง.ในช่วงเวลาเกิดเหตุ ซึ่งเป็นคนงานที่มารับจ้างรายวัน มีรายชื่อแต่ไม่ได้เดินทางมาทำงาน
ส่วนผู้เสียชีวิตที่ได้รับการตรวจยืนยันอัตลักษณ์บุคคลเบื้องต้น 89 คน ขณะเดียวกันยังต้องรอการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลจากชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์ที่พบว่าชิ้นส่วนที่พบจะเป็นหนึ่งในร่างของผู้ที่สูญหายในจำนวนที่เหลืออยู่หรือไม่ ส่วนกระบวนการพิสูจน์ต้องใช้เวลา เนื่องจากการตรวจพิสูจน์ชิ้นส่วน เช่น การตรวจจากกระดูกที่มีความหนาแน่นพอสมควร หากพบชิ้นส่วนเล็กๆ ก็ไม่เพียงพอต่อการตรวจพิสูจน์
ขณะที่วันนี้ ได้มีบริษัทประกันภัยทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ ทิพยประกันภัย ,กรุงเทพประกันภัย ,อินทระประกันภัย ,วิรยะประกันภัย เข้ามาตรวจสอบความเสียหายในพื้นที่และเก็บพยานหลักฐานเท่าที่มีอยู่และจำเป็น ระหว่างวันที่ 9-11 พ.ค.นี้ เพื่อใช้ในการประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากนั้นในวันที่ 19-21 พ.ค. จะมีผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวจากประเทศออสเตรเลีย จะเข้าพื่นที่หารือหน่วยเกี่ยวข้องด้วย