เทียบชัด! คนละครึ่ง - ช้อปดีมีคืน เลือกได้อย่างเดียว โครงการไหนคุ้มสุด?
รัฐบาลเข็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปีออกมามากมาย ทั้งการเพิ่มวงเงิน 500 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแล้ว ล่าสุดได้มีมาตรการ "คนละครึ่ง" และ "ช้อปดีมีคืน" ที่กระตุ้นให้คนนำเงินออกมาจับจ่ายใช้สอย เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งผู้ที่จะใช้สิทธิ์นั้น จะต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะรัฐบาลกำหนดไว้ว่า 1 คน เข้าร่วมได้เพียงมาตรการเดียวเท่านั้น ดังนั้น จึงต้องเลือกมาตรการที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด
คนละครึ่ง
เงื่อนไข
- มีบัตรประจำตัวประชาชนเป็นบุคคลสัญชาติไทย
- อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
- ไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- ต้องลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ www.คนละครึ่ง.com เริ่มวันที่ 16 ตุลาคม 2563 เวลา 06.00-23.00 น.
- จำกัดจำนวน 10 ล้านสิทธิ์
- เริ่มใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม - 31 ธันวาคม 2563 เวลา 06.00-23.00 น.
- ต้องใช้สิทธิ์ภายใน 14 วัน นับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ได้รับ SMS แจ้งรับสิทธิ์ หรือวันที่เปิดให้เริ่มใช้จ่ายตามโครงการ มิฉะนั้นจะถูกตัดสิทธิ์ และไม่สามารถลงทะเบียนใหม่ได้
สิทธิประโยชน์
- รัฐบาลจะช่วยจ่ายค่าซื้อสินค้าให้ 50% ของมูลค่าสินค้า แต่ไม่เกินวันละ 150 บาทต่อวันต่อคน และตลอดทั้งโครงการให้สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน ยกตัวอย่าง หากซื้อสินค้าจำนวน 200 บาท เราจ่ายเอง 100 บาท รัฐบาลจ่ายให้ 100 บาท หรือกรณีที่ซื้อสินค้า 400 บาท เราต้องจ่ายเอง 250 บาท รัฐบาลจ่ายให้ 150 บาทต่อวันเท่านั้น
- ใช้สิทธิ์ซื้อสินค้าได้กับร้านอาหาร, เครื่องดื่ม, สินค้าทั่วไปที่เข้าร่วมโครงการ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าขนาดเล็ก หาบเร่ แผงลอย ร้านค้าในตลาด ร้านโชห่วยก็ใช้ได้ หากร้านค้านั้นเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง
- ไม่สามารถใช้สิทธิ์ได้กับสินค้าประเภทสลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ และบริการ
- ต้องจ่ายเงินผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" เท่านั้น โดยเราต้องเติมเงินเข้าแอปฯ เป๋าตัง ให้เรียบร้อยก่อนซื้อสินค้า จากนั้นนำไปสแกนกับแอปพลิเคชัน ถุงเงิน ของร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง
** สรุปผู้ที่เหมาะสมกับโครงการ "คนละครึ่ง" ได้แก่ ผู้ที่มีรายได้น้อยหรือรายได้ปานกลาง เป็นผู้ที่ไม่ได้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ผู้ที่ไม่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้สูงอายุ เกษียณอายุ นักเรียน นักศึกษา ที่ใช้เงินผ่านระบบ G-Wallet เหมาะสมกับมาตรการนี้ **
ช้อปดีมีคืน
เงื่อนไข
- ผู้ที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ในปีภาษี 2563
- ไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- ไม่ได้ลงทะเบียนร่วมโครงการคนละครึ่ง
- มาตรการช้อปดีมีคืนไม่ต้องลงทะเบียน สามารถซื้อสินค้าและขอใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปมาเป็นหลักฐานในการยื่นแบบภาษีเงินได้ฯ เพื่อลดหย่อนภาษีได้เลย
- ใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม - 31 ธันวาคม 2563
สิทธิประโยชน์และเงื่อนไข
- สามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและบริการ มาหักลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง สูงสุด 30,000 บาท
- ลดหย่อนภาษีได้เท่าไรขึ้นอยู่กับรายได้ของแต่ละคนว่าต้องเสียภาษีขั้นไหน ดังนี้
- เงินได้สุทธิต่อปี 0-150,000 บาท ได้รับการยกเว้นภาษี ไม่ได้สิทธิ์คืนภาษี
- เงินได้สุทธิต่อปี 150,001-300,000 บาท อัตราภาษีเงินได้ 5% สิทธิ์ได้คืนภาษีสูงสุด 1,500 บาท
- เงินได้สุทธิต่อปี 300,001-500,000 บาท อัตราภาษีเงินได้ 10% สิทธิ์ได้คืนภาษีสูงสุด 3,000 บาท
- เงินได้สุทธิต่อปี 500,001-750,000 บาท อัตราภาษีเงินได้ 15% สิทธิ์ได้คืนภาษีสูงสุด 4,500 บาท
- เงินได้สุทธิต่อปี 750,001-1,000,000 บาท อัตราภาษีเงินได้ 20% สิทธิ์ได้คืนภาษีสูงสุด 6,000 บาท
- เงินได้สุทธิต่อปี 1,000,001-2,000,000 บาท อัตราภาษีเงินได้ 25% สิทธิ์ได้คืนภาษีสูงสุด 7,500 บาท
- เงินได้สุทธิต่อปี 2,000,001-5,000,000 บาท อัตราภาษีเงินได้ 30%สิทธิ์ได้คืนภาษีสูงสุด 9,000 บาท
- เงินได้สุทธิต่อปี 5,000,001 บาทขึ้นไป อัตราภาษีเงินได้ 35% สิทธิ์ได้คืนภาษีสูงสุด 10,500 บาท
- ต้องซื้อสินค้าและบริการจากร้านที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป
- สามารถซื้อหนังสือ และสินค้าโอทอปที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว โดยมีใบเสร็จรับเงิน
- ไม่สามารถใช้สิทธิ์ได้กับสินค้าประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ยาสูบ, สลากกินแบ่งรัฐบาล, ค่าน้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ, ค่าที่พักในโรงแรม, ค่าบริการนำเที่ยว, ค่ารถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ, ค่าหนังสือพิมพ์และนิตยสาร และค่าบริการหนังสือพิมพ์และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
** สรุปผู้ที่เหมาะสมกับโครงการ "ช้อปดีมีคืน" ได้แก่ ผู้ที่มีรายได้สูง เป็นมนุษย์เงินเดือน มีงานประจำ ผู้ที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่ต้องลงทะเบียน เพียงแค่ซื้อสินค้า ตั้งแต่ 23 ต.ค.ถึง 31 ธ.ค.63 แล้วขอใบกำกับภาษี "ตัวเต็ม" กับบรรดาร้านค้าที่เข้าไปใช้บริการ เพื่อนำไปหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท **
ด้าน นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แนะนำว่า ผู้ที่จะเข้าร่วมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโครงการใดโครงการหนึ่ง ให้ประเมินตนเองในเงื่อนไขต่างๆ รวมทั้ง จะเลือกซื้อสินค้าใด หากเป็นผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และต้องการจะซื้อสินค้าชิ้นใหญ่ที่มีมูลค่าสูงครั้งเดียว แนะนำให้เข้าร่วม "ช้อปดีมีคืน" เพื่อที่จะได้ไม่ต้องไปแย่งกันลงทะเบียนคนละครึ่ง
ขอบคุณข้อมูลจาก คนละครึ่ง.com , สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดเงื่อนไข ช้อปดีมีคืน ซื้ออะไรได้บ้าง-จะได้ภาษีคืนเท่าไหร่??
รีเช็ก!ลงทะเบียน"คนละครึ่ง"พรุ่งนี้ ต้องเตรียมพร้อมอะไรบ้าง?
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE