ไฮโซตั๋ม คือใคร เปิดประวัตินักธุรกิจไฮโซสาว  คนดังในโซเชียลผู้มาก่อนกาล

“วิชชุดา ลีนุตพงษ์” หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “ไฮโซตั๋ม” เป็นบุคคลที่มีบทบาททั้งในวงการธุรกิจและโลกออนไลน์ ด้วยบุคลิกเฉพาะตัวและความมั่นใจ เธอกลายเป็นที่สนใจของสื่อมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปี 2558 ที่กลายเป็นกระแสหลังเหตุการณ์เผชิญหน้ากับ “หมอแอร์” พ.ต.ท.หญิง พญ.อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล ซึ่งเป็นไอดอลออนไลน์ในยุคนั้น

ในปี 2568 ไฮโซตั๋มกลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง มีการแชร์บทสัมภาษณ์ของเธออย่างแพร่หลาย พร้อมมีมต่างๆ ที่สะท้อนบุคลิกแบบคนตรงไปตรงมา จนโลกโซเชียลยกให้เป็น “ผู้มาก่อนกาล” ที่พูดความจริงด้วยความมั่นใจ ไม่หวั่นต่อกระแสสังคม

ปรากฏการณ์ “ไฮโซตั๋ม รีเทิร์น” ในปีนี้ ทำให้หลายคนหันมาย้อนดูประวัติและจุดยืนของเธออีกครั้ง ว่าเหตุใดเธอถึงกลายเป็นตำนาน 

ประวัติ “ไฮโซตั๋ม” สาวนักเรียนนอกผู้เพียบพร้อมด้วยวุฒิ และ ความสามารถ 

“ไฮโซตั๋ม”  มีชื่อจริงว่า  น.ส. วิชชุดา ลีนุตพงษ์   เป็นลูกสาวคนโตในครอบครัวตระกูล ยนตรกิจกรุ๊ป โดยบิดาคือ วิเชียร ลีนุตพงษ์ ผู้บริหารใหญ่วงการรถนำเข้า

เรียนจบมัธยมจากโรงเรียนประจำในอังกฤษ, ปริญญาตรีทางด้าน Social Work และปริญญาโท Teaching English for non-English Speakers จาก Seattle University สหรัฐอเมริกา รวมทั้งปริญญาเอกด้าน Social Work จาก Capella University สหรัฐอเมริกา

ไฮโซตั๋ม มีบทบาทเป็นผู้บริหารด้านพีอาร์และมาร์เก็ตติ้งของครอบครัว เธอรับตำแหน่งผู้ช่วยรองประธานกรรมการยานยนต์กรุ๊ป และ กรรมการผู้จัดการ SL International Automobile รับผิดชอบการจัดอีเวนต์ รวมถึงการออกโชว์มอเตอร์โชว์ตั้งแต่ปี 200

ดรามาที่กวาดแอร์ไทม์ ของทุกสื่อในปี 2558 หลังเผชิญหน้า “หมอแอร์”

“ไฮโซตั๋ม” เคยเผชิญหน้ากับ  “หมอแอร์” พ.ต.ท.หญิง พญ.อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล ในปี 2558 และ เกิดเป็นคดีความหมิ่นประมาทจากเรื่องโพสต์เป็นเฟซบุ๊ก โดยซีนใหญ่ที่ถูกกล่าวขานจนถึงปัจจุบัน คือการที่ “ไฮโซตั๋ม” ไปปรากฏตัวในงานแถลงข่าวของหมอแอร์ พร้อมกับคำพูดที่ตรงไปตรงมา ที่บอกกันแบบซึ่งหน้า และ เกิดวลีเด็ด  “ไม่ต้องแอ๊บแบ๊ว คนเขาดูออก” ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นสถานการณ์ที่ยากจะลืมเลือนแม้ผ่านมา 10 ปี 

ออกสื่อทุกครั้ง สัมฯ โดนใจทุกรอบ จนกลายเป็น มีมที่นำมาแชร์กันในปัจจุบัน

ไฮโซตั๋มเป็นบุคคลที่โดดเด่นเรื่องท่าทีตรงไปตรงมา ทำให้มีภาพลักษณ์แรงในสมัย 10 ปีก่อน แต่ถูกใจคนสมัยนี้ ที่สังคมเปิดใจแสดงออกทางความรู้สึกกันมากขึ้น ทำให้วิวาทะ ระหว่างสัมภาษณ์ของ “ไฮโซตั๋ม” ที่เคยให้ไว้กลายเป็นมีม ที่ถูกกลับนำมาแชร์ ในยุค 2568  ใต้กลิ่นอายแบบพลังลบพร้อมบวก อาทิ 

“ ถ่ายรูปแล้วมันตาโตแล้วไง ถ้าคุณเกลียดดิฉันขนาดนี้ ทั้งตัวหาเรื่องด่าได้แค่ดวงตา ก็ถือว่าโชคดีมากแล้วนะคะ” 

“มีคนว่ามาแรงๆ ก็ขอดูรูปคุณก่อนไหม ก่อนที่คุณจะว่าฉัน รูปคุณก็รูปปลอม บางคนที่มาว่าหน้าคุณก็แบบคุณไม่ควรจะเล่นคอมพิวเตอร์เลยด้วยซ้ำ”

“มีอะไรก็พูดกันต่อหน้าค่ะ ไม่ต้องแอ๊บแบ๊วแบบนี้คนเค้าดูออก”

“อย่าเรียกว่าแก้แค้นเลยค่ะ ขอยอมรับว่า เป็นการสะใจส่วนตัวดีกว่า มันไม่ได้มีผลดีอะไรเลย แต่พี่ก็หยุดไม่ได้ค่ะ”   เป็นต้น 

นอกจากการเป็นคนดังในโลกโซเชียลแล้ว ท่าทีที่ไม่กลัวที่จะพูดความจริงแบบตรง ๆ ซึ่งทำให้ไฮโซตั๋มกลายเป็นบุคคลที่ถูกจับตามองทั้งในแง่ธุรกิจและสังคมออนไลน์ตลอดมา แม้จะเผชิญกับกระแสต้านบ้าง แต่ด้วยความยืนหยัด และ มั่นใจในความถูกต้อง ทำให้เธอก้าวขึ้นมาเป็นไอดอลของใครหลายคนได้อย่างง่ายดาย