รีเซต

จีน-อาเซียน กระชับความร่วมมือ 'แก้จน-พัฒนาชนบท'

จีน-อาเซียน กระชับความร่วมมือ 'แก้จน-พัฒนาชนบท'
Xinhua
28 มิถุนายน 2566 ( 02:31 )
34

27 มิ.ย. (ซินหัว) -- เมื่อวันจันทร์ (26 มิ.ย.) เมืองเป่ยไห่ เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน ได้เปิดการประชุมจีน-อาเซียนว่าด้วยการพัฒนาสังคมและการลดความยากจน ครั้งที่ 17 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-29 มิ.ย. นี้ โดยมีคณะผู้แทนหน่วยงานรัฐบาลจีนและอาเซียน ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลประเทศอาเซียนในจีน ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญ และผู้แทนทางธุรกิจเข้าร่วมมากกว่า 200 คน

สังศิต พิริยะรังสรรค์ สมาชิกวุฒิสภาไทย ซึ่งเข้าร่วมการประชุมข้างต้นในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำของไทย กล่าวว่าความยากจนและความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยและคนจนยังคงเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของไทยตลอด 50 ปีที่ผ่านมา โดยมาตรการลดความยากจนของไทยควรอ้างอิงสภาพความเป็นจริงของสังคม เพราะแต่ละภูมิภาคมีสภาพทางภูมิศาสตร์และวัฒนธรรมต่างกัน จึงไม่สามารถใช้วิธีการเดียวแก้ทุกปัญหาได้

ปัจจุบันไทยกำลังส่งเสริมโครงการก่อสร้างเขื่อนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยในพื้นที่ไร้การชลประทานเข้าถึงแหล่งน้ำ ส่วนประสบการณ์การลดความยากจนของไทยยังคงมีจำกัด แม้ประสบผลสำเร็จส่วนหนึ่งในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นการประชุมครั้งนี้ ซึ่งมีหัวข้อ "กระชับความร่วมมือระดับภูมิภาค ส่งเสริมการลดความยากจนและการพัฒนาชนบท" จะช่วยให้ไทยได้เรียนรู้ประสบการณ์เพิ่มเติมจากจีน

ด้าน เอกภาพ พันธวงศ์ รองเลขาธิการอาเซียน แสดงความหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะนำสู่การหารือเพิ่มเติมและการกำหนดยุทธศาสตร์ต่างๆ ที่ดียิ่งขึ้น เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำที่เด็ก สตรี คนชรา คนพิการ และคนกลุ่มเปราะบางอื่นๆ ต้องเผชิญ พร้อมชี้ว่านโยบายการพัฒนาเชิงปฏิบัติควบคู่กับความร่วมมือระดับภูมิภาคที่แข็งแกร่งสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้และยกระดับมาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ด้อยโอกาสได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อนึ่ง บรรดาผู้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ต่างให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจในยุคหลังโรคระบาดใหญ่และการป้องกันการกลับสู่ความยากจน พร้อมแสดงความยินดีกระชับการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือกับจีนในด้านการพัฒนาสังคมและการลดความยากจน ร่วมมือส่งเสริมการบูรณาการทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค ประสานพลังรับมือความท้าทายระดับโลกอย่างการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ บรรลุการพัฒนาสีเขียวที่ยั่งยืน และมีส่วนส่งเสริมการสร้างประชาคมจีน-อาเซียน ที่มีอนาคตร่วมกันยิ่งขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง