IMFชี้“เอเชีย”เสี่ยงหดตัว เหตุภาษี-กีดกันการค้า

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า แม้ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกยังคงเป็นภูมิภาคที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก แต่การเพิ่มขึ้นของภาษีนำเข้าและแนวโน้มกีดกันทางการค้าที่ขยายตัว อาจส่งผลกระทบต่อความต้องการสินค้าส่งออกและฉุดรั้งกิจกรรมทางเศรษฐกิจในระยะถัดไป
รายงานของ IMF ระบุว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจเอเชียในช่วงต้นปี 2568 ได้แรงหนุนจากการส่งออกที่เติบโตแข็งแกร่ง เนื่องจากภาคธุรกิจเร่งส่งออกก่อนการปรับขึ้นภาษีที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (frontloading) และวัฏจักรเทคโนโลยีที่เริ่มฟื้นตัว ขณะเดียวกันนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายและสภาพคล่องทั่วโลกที่ยังเอื้ออำนวยได้ช่วยกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศให้ขยายตัวต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม IMF คาดว่าเศรษฐกิจเอเชียจะขยายตัว 4.5% ในปี 2568 ลดลงเล็กน้อยจาก 4.6% ในปี 2567 และจะชะลอลงอีกเหลือ 4.1% ในปี 2569
ทั้งนี้ IMF เรียกร้องให้รัฐบาลในภูมิภาค ซึ่งคิดเป็นประมาณ 60% ของการขยายตัวเศรษฐกิจโลกในปีที่ผ่านมา ดำเนินมาตรการกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศ โดยเฉพาะการบริโภค และเร่งฟื้นฟูศักยภาพการผลิตในระยะกลาง ทั้งนี้ IMF แนะนำให้ประเทศต่าง ๆ ใช้มาตรการการคลังและการเงินแบบเฉพาะจุด เพื่อบรรเทาผลกระทบจากช็อกทางการค้าในระยะสั้น
นอกจากนี้ IMF ยังเน้นว่าจำเป็นต้องเร่งปฏิรูปเชิงโครงสร้าง เพื่อสนับสนุนภาคบริการ ลดแรงจูงใจที่นำไปสู่การจัดสรรเงินทุนผิดทิศทาง และลดผลกระทบจากปัญหาสังคมผู้สูงอายุ เพื่อเสริมศักยภาพการเติบโตระยะกลางและปรับสมดุลเศรษฐกิจในภูมิภาค
ขณะเดียวกัน IMF มองในด้านบวกว่ากระแสการลงทุนที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI boom) อาจช่วยกระตุ้นการส่งออก การลงทุน และผลิตภาพในภูมิภาคให้ขยายตัวได้ดีกว่าคาด หากมีนโยบายสนับสนุนที่เพียงพอ ขณะเดียวกันการคลี่คลายความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์จะช่วยลดความไม่แน่นอนและส่งเสริมการลงทุนและประสิทธิภาพการผลิตในระยะยาว
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
