กทม. ว่าไง? ศบค. แฉ ตรวจพบร้านไร้ SHA แอบขายสุรา 172 แห่ง
ศปก.ศบค. จี้ ผู้ประกอบการเข้มมาตรฐาน SHA-SHAพลัส-ไทยสต็อปโควิด-ไทยสต็อปโควิด2พลัส แฉ กทม. ตรวจพบร้านไร้ SHA แอบขายสุรา 172 แห่ง
วันที่ 1 ธ.ค.2564 ที่ศบค.ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงตอนหนึ่งว่า เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในฐานะ ผอ.ศปก.ศบค. ฝากมาว่า เราต้องการเปิดประเทศ ต้องการให้กิจการกิจกรรมทำได้ในทุกที่โดยมีมาตรฐาน SHA, SHAพลัส, ไทยสต็อปโควิด หรือมาตรฐานอื่น ๆ อีกหลากหลายที่มีออกมา
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า ซึ่งทางกรุงเทพมหานครมีตัวอย่างที่ถือเป็นพื้นที่สีฟ้า โดยได้รายงานว่า จากการที่กรุงเทพมหานครได้ประเมินสถานประกอบการที่จะได้มาตรฐาน SHAพลัส นั้น มีการรายงานเป็นวัน ๆ ซึ่งในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ รายงานว่าเพิ่มได้ 1,679 แห่ง ตอบด้วยภัตตาคาร ร้านอาหาร 584 แห่ง และโรงแรมอีก 500 กว่าแห่ง นอกนั้นเป็นสถานที่นันทนาการ สถานที่ท่องเที่ยว บริษัทนำเที่ยว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ถ้าถามว่า 1,679 แห่งนั้นมากหรือน้อย คิดว่าในกรุงเทพมหานคร น่าจะมีจำนวนมากกว่านี้ จากรายงานระบุว่าตัวเลขสะสมสถานประกอบการที่ได้มาตรฐาน SHA แล้ว 9,196 แห่ง, มาตรฐาน SHAพลัส 1,631 อย่างไรก็ตามยังมีช่องว่างเลิกวัคซีน เจ้าหน้าที่ พนักงาน อีกหลายอย่าง
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ดังนั้นการที่เรียกร้องต้องการเปิดกิจการกิจกรรมจำหน่ายอาหารแบบเสรีอย่างเต็มที่ มีช่วงเวลาขยายเพิ่มขึ้นในการอนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็ต้องขอฝากให้ทุกแห่งช่วยดูแลตัวเองในการปรับมาตรฐานของร้านให้ขึ้นมาอยู่ในระดับ ที่สามารถมั่นใจได้ว่าเปิดการขายแล้วลูกค้าหรือทางร้านเองมีความปลอดภัย
"กรุงเทพมหานครรายงานว่าได้ตรวจสถานที่ไปทั้งหมด 15,840 แห่ง จำนวนที่ตรวจ 10,161 ครั้ง ซึ่ง มี SHA 2,609 แห่ง ไม่มี SHA 5,000 กว่าแห่ง และมีขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1,892 แห่ง ไม่มีขาย 6,000 กว่าแห่ง และยังมีการรายงานด้วยว่ามีการตักเตือน เพราะมีเหตุเรื่องการดื่มสุรา แต่สถานที่นั้นไม่มี SHA ถึง 172 แห่ง จึงเรียกได้ว่ามาตรฐานตัวเองไม่ถึงแต่แอบขายสุรา ซึ่งถือเป็นความร่วมมือของชุดปฏิบัติการร่วม ระหว่างตำรวจ ทหาร เทศกิจ สิ่งแวดล้อม และพัฒนาชุมชน ที่ได้ช่วยกันพูดคุยและตักเตือน แต่เมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ก็ได้มีการสั่งปิดไปแล้วหนึ่งราย" นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ขอความร่วมมือ ผู้ประกอบการสมาคมภัตตาคารร้านอาหาร ช่วยดำเนินมาตรการ SHAพลัส ตามรายละเอียดที่กรมอนามัยของกระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำไว้ และยังมี ไทยสต็อปโควิดพลัส, ไทยสต็อปโควิด2พลัส ซึ่งเป็นการเพิ่มมาตรการที่แตกต่างกันไป จึงขอให้องค์กรที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการ ภาคเอกชน ช่วยกันศึกษา และจะได้เปิดเพิ่มให้ได้มากขึ้น ประชาชนจะได้มีความมั่นใจ เพื่อเดินหน้ากิจการกิจกรรมในการเปิดประเทศได้