ลำปางพบแม่ค้าขายกาแฟกลับจากกทม.ไม่ยอมหยุดขายจนท.เร่งทำความเข้าใจ

เมื่อช่วงสาย วันที่​ 25 มี.ค.2563​ เจ้าหน้าที่สายตรวจตำบลชมพู สภ.เขลางค์​ลำปาง​ เดินทางตรวจสอบตลาดเก๊าจาวเขตเทศบาลนครลำปาง​ อ.เมือง​จ.ลำปาง​ หลังมีพลเมืองดีแจ้งไปยังศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน191​ตำรวจภูธรจังหวัดลำปางว่ามีแม่ค้าขายกาแฟในตลาด เดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร​ (พื้นที่เสี่ยง)ไม่ยอมกักตัวเองอยู่ในบ้าน(14วัน)ตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข และยังขายกาแฟในตลาดตามปกติ

ดังนั้นสายตรวจตำบลชมพูจึงเดินทางตรวจสอบ ได้สอบถามแม่ค้าขายกาแฟซึ่งเป็นผู้หญิงอายุประมาณ65-70ปี​จากสอบถาม ข้อมูลเบื้องต้นผู้หญิงคนดังกล่าวยอมรับว่าได้เดินทางกลับจากกรุงเทพมหานครจริงเนื่องจากเดิยทางไปพบหมอตามหมอนัดซึ่งสายตรวจตำบลชมพูได้แนะนำให้เดินทางไปแจ้งข้อมูลกับทางสาธารณสุขจังหวัดลำปางทราบในเบื้องต้น ว่าได้เดินทางไปกทม.มา ถ้าหากไม่ไปแจ้งจะมีความผิด
ซึ่งผู้หญิงคนดังกล่าวรับทราบและจะเดินทางไปตามคำแนะนำ​แต่ถ้าให้หยุดขายกาแฟจะเอาที่ไหนใช้จ่าย​ซึ่งสายตรวจตำบลชมพูจึงได้ประสานกับเจ้าของตลาดถึงการจะช่วยเหลือซึ่งจากการพูดคุยทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงกันได้โดยเจ้าของตลาดให้ผู้หญิงคนดังกล่าวหยุดขายกาแฟ​14วันตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข​​ซึ่งผู้หญิงคนดังกล่าวยอมปฏิบัติตามเพื่อให้รับผิดชอบต่อสังคม​

จากสถิติข้อมูลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 – 23 มี.ค. 63 พบว่าในพื้นที่ทั้งจังหวัดลำปาง มีจำนวนผู้ที่เดินทางกลับมาจากประเทศเกาหลี 169 คน, เดินทางกลับจากประเทศตามประกาศกระทรวง (จีน อิตาลี อิหร่าน) 44 คน, เดินทางกลับจากพื้นที่ที่มีการระบาดต่อเนื่อง(29 ประเทศ) 302 คน, มีผู้ใกล้ชิดบุคคลกลุ่มเสี่ยง 158 คน และมีบุคลากรทางการแพทย์ที่สัมผัสผู้เข้าเกณฑ์เฝ้าระวัง 205 คน ในจำนวนนี้มีผู้ผ่านการติดตามเฝ้าระวังทำการกักตัวครบ 14 วัน รวมแล้ว 662 คน ยังเหลือบุคคลที่ต้องติดตามเฝ้าระวัง 216 คน และมีข้อมูลผู้เดินทางกลับจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑล กระจายอยู่ในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ รวม 198 คน โดยทั้งหมดเจ้าหน้าที่สามารถติดตามทำการกักตัวเพื่อเฝ้าดูอาการได้ครบทุกคน 100 เปอร์เซ็นต์ และยังไม่มีรายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อในพื้นที่จังหวัดลำปางแม้แต่คนเดียว