แรงงานไทยในอุซเบฯ วอนนายกฯเร่งช่วยกลับบ้าน

วันนี้( 30 ก.ค.63) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี เมื่อเวลา 11.00 น. ได้เดินทางไปยังบ้านของ นายศราวุธ สีทอง อายุ 32 ปี ที่บ้านหลวง ต.นาพู่ อ.เพ็ญ แรงงานไทยที่ไปทำงานที่ประเทศอุซเบกิถาน ที่หมดสัญญาจ้างกับนายจ้างมาแล้ว 1 เดือน แต่ตกค้างไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้ เพราะทางอุซเบกิสถานปิดน่านฟ้า จากสถานการณ์ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยได้พบกับ น.ส.เพ็ญนภา เศษสวย ภรรยาของนายศราวุธฯที่เป็นแม่บ้านอยู่ที่บ้าน 

 โดย น.ส.เพ็ญนภา ได้วีดีโอคอล คุยกับนายศราวุธ สามี ที่กำลังกินข้าวอยู่ที่แคมป์คนงานร่วมกับเพื่อนคนงานด้วยกัน ซึ่งเวลาที่ประเทศอุซเบกิสถานช้ากว่าเวลาประเทศไทย 2 ชั่วโมง และได้คุยกับผู้สื่อข่าว ตอบคำถามว่า ตอนนี้แรงงานไทยทั้ง 101 คน ได้แต่รอเครื่องบินที่จะกลับบ้าน แค่ยังไม่มีไฟท์บิน และมีผู้ที่ได้รับแจ้งมาว่าติดเชื้อโควิด-19 รวม 27 คน ที่ได้แยกไปอยู่อีกแคมป์หนึ่ง ส่วนเรื่องที่มีการเตือนแรงงานเรื่องที่จะเผาแคมป์คนงานนั้น ความจริงไม่มีใครจะเผา คือมันเป็นความอัดอั้นตันใจ น้อยเนื้อต่ำใจ ที่อยู่กับแบบไม่มีความหวังอะไร จะกลับบ้านก็ไม่ได้ จะออกไปไหนก็ไม่ได้ เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะเผาจริง ๆ ตนจะได้กลับวันไหนก็ไม่รู้ แล้วตอนนี้สนามบินอุซเบกีสถานก็เลื่อนเปิดออกไปเป็นวันที่ 15 ส.ค.

 ส่วนเรื่องกินอยู่ก็มีนายจ้างดูแลให้กินเช้า เที่ยง เย็น ซึ่งส่วนตัวแล้วตนกับเพื่อนคนงานอีกหลายคน ก็หมดสัญญากับนายจ้างแล้ว ส่วนเรื่องที่จะกลับความจริงรอก็รอได้ แต่ตอนนี้มันมีโรคโควิด-19 เข้ามา ทำให้กลัวและอยากจะกลับบ้านเร็วๆ และพวกเราอยากให้ท่านนายกรัฐมนตรีมาช่วยพวกเราได้กลับบ้าน จะเป็นแบบกรณีฉุกเฉินหรือกรณีพิเศษก็ได้ เพราะตนดูข่าวเห็นท่านนายกฯ บอกว่า จะช่วยนักศึกษาที่อียิปต์ และช่วยแรงงานไทยที่อุซเบกิสถานด้วย ซึ่งตอนนี้พวกเราก็ได้แต่รอเพียงอย่างเดียว  

 “ผมขอฝากถึงท่านนายกรัฐมนตรี ตอนนี้คนไทยทั้งหมดต้องการจะกลับบ้านด่วน เพราะว่ากลัวโรคโควิด-19 ซึ่ง 27 คนงานที่ว่าติดเชื้อนั้นที่แยกไปพักที่แคมป์ใหม่ได้ 3 วัน ที่มีการตรวจหาเชื้ออีกรอบ แต่เขาไม่เจอเชื้อก็ส่งกลับมาที่แคมป์เดิม ที่ทราบมาเขาจะตรวจเชื้อทุก 3 วันครั้ง หากไม่เจอเชื้อก็ส่งกลับที่เดิม” นายศราวุธ กล่าว

หลังจากนั้น นายศราวุธ ได้ใช้กล้องให้ดูอาหารเช้าที่กำลังกินอยู่กับเพื่อนคนงานด้วยกัน โดนมีข้าวสวย ไข่ต้ม 2 ฟอง และไส้กรอก 2 ชิ้นที่เป็นอาหารทุกมื้อ 

 ด้านภรรยาของนายศราวุธฯ เปิดเผยว่า หลังได้วีดิโอคอลคุยกับสามีแล้ว ก็เป็นห่วงกลัวว่าสามีจะไปติดเชื้อโควิด-19 และเมื่อได้ฟังสามีพูดเมื่อกี้ก็หายห่วง ส่วนเรื่องที่สามียังไม่ได้เดินทางกลับ ตนทราบเหตุผลอยู่ว่าต้องรอ ที่ยังไม่มีกำหนดว่าจะได้กลับเมื่อไหร่ ส่วนที่สามีหมดสัญญาแล้วไม่ต่อสัญญากับนายจ้างหลังทำงานได้ 1 ปีนั้น เพราะว่ามันไม่ได้เงินตรงตามที่คิดไว้ เลยคิดว่าแบบนี้กลับบ้านดีกว่า จึงไม่ต่อสัญญา ทังที่ยังใช้หนี้ที่เดินทางไปทำงานยังไม่หมด และขอฝากให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในรัฐบาลให้ช่วยดำเนินการในการนำตัวแรงงานทั้งหมดกลับบ้านด้วย

เกาะติดข่าวที่นี่