รีเซต

เกาหลีใต้ จับพลเรือน-ร้อยเอก ใช้อุปกรณ์ให้ โสมแดง ล้วงความลับทหาร

เกาหลีใต้ จับพลเรือน-ร้อยเอก ใช้อุปกรณ์ให้ โสมแดง ล้วงความลับทหาร
ข่าวสด
29 เมษายน 2565 ( 00:45 )
68
เกาหลีใต้ จับพลเรือน-ร้อยเอก ใช้อุปกรณ์ให้ โสมแดง ล้วงความลับทหาร

วันที่ 28 เม.ย. บีบีซี รายงานว่า ตำรวจใน เกาหลีใต้ จับกุม 2 คน ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยในข้อหาแพร่งพรายความลับทางทหารแก่คนที่เชื่อว่าเป็นสายลับเกาหลีเหนือ ถือเป็นกรณีแรกที่พบว่าเจ้าหน้าที่ประจำการและพลเรือนภายใต้คำสั่งของสายลับเกาหลีเหนือสมรู้ร่วมคิดและสืบหาความลับทางทหาร

ตำรวจระบุว่า ผู้ต้องสงสัย 2 คน ได้แก่ ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซี และนายทหาร ซึ่งเปิดเผยรายละเอียดการเข้าสู่ระบบสำหรับหน่วยบัญชาการทหารร่วมของ เกาหลีใต้ และทั้งสองถูกกล่าวหาได้รับได้รับเงินจำนวนมหาศาลเป็นการแลกเปลี่ยน

ทั้งสองถูกจับเมื่อต้นเดือนเม.ย. 65 ซึ่งใช้นาฬิกากล้องถ่ายภาพ และอุปกรณ์ยูเอสบี เพื่อให้สายลับเข้าถึงข้อมูลระหว่างเดือนม.ค.-มี.ค. 65 ส่วนที่อยู่และตัวตนของสายลับเกาหลีเหนือคนดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจน

AFP

 

อัยการและตำรวจเกาหลีใต้ประกาศการจับกุมเจ้าของบริษัทคริปโตเคอเรนซีซึ่งมีชื่อเพียง "นายลี" และนายทหาร "ร้อยเอกบี" ในวันพฤหัสบดี 28 เม.ย. ทั้งสองถูกตั้งข้อหาละเมิดรัฐบัญญัติความมั่นคงแห่งชาติของประเทศ

เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้กล่าวหานายลีได้รับการติดต่อครั้งแรกในเดือนก.ค. 64 เพื่อพยายาม "จ้างเจ้าหน้าที่ประจำการเพื่อตรวจสอบความลับทางการทหาร" เดือนต่อมาคือ ส.ค. 64 นายอีเข้าหาร้อยเอกบี โดยสัญญาจะจ่ายบิตคอยน์แก่ร้อยโทบี เพื่อแลกกับความลับทางทหาร ตามคำสั่งของสายลับเกาหลีเหนือ ต่อมา ร้อยเอกบีตกลงที่จะเข้าร่วมและเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว

 

สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่า เมื่อเดือนม.ค. 65 นายอีซื้อกล้องซ่อนในนาฬิกา และส่งมอบแก่ร้อยเอกบี ผ่านบริษัทจัดส่ง จากนั้น ร้อยเอกบีนำกล้องซ่อนในนาฬิกาเข้าไปในฐานทัพได้

จากนั้น นายอีซื้ออุปกรณ์แฮ็กประเภทยูเอสบี ที่รู้จักกันในชื่อ "พอยสันแท็บ" (poison tap) ซึ่งให้สายลับสามารถเข้าถึงข้อมูลบนแล็ปท็อปของเขาได้จากระยะไกล รวมถึงข้อมูลรับรองการเข้าสู่ระบบของระบบบัญชาการและการควบคุมร่วมของกองทัพเกาหลีใต้ แต่ยังไม่แน่ชัดว่า ข้อมูลส่วนอื่นๆ ถูกเข้าถึงด้วยหรือไม่

SEOUL CENTRAL DISTRICT PROSECUTOR'S OFFICE

อัยการระบุว่า ร้อยเอกบีได้รับบิตคอยน์เป็นเงิน 48 ล้านวอน (1.3 ล้านบาท) สำหรับหน้าที่ในปฏิบัติการสายลับ ขณะที่นายอีได้รับคริปโตเป็นเงิน 700 ล้านวอน (18.9 ล้านบาท)

ตำรวจระบุได้รับเบาะแสดังกล่าวในเดือนก.พ. และจับกุมนายอีเมื่อวันที่ 2 เม.ย. และร้อยเอกบีเมื่อวันที่ 15 เม.ย. ส่วนตัวตนผู้อยู่เบื้องหลังปฏิบัติการสายลับเป็นที่สันนิษฐานว่าเป็นชาวเกาหลีเหนือ โดยอ้างอิงตามคำให้การผู้ต้องสงสัยและแอปพลิเคชั่นเทเลแกรม และเสริมว่าการจับกุมนายอีและร้อยเอกบีเป็นการสกัดกั้นการรั่วไหวความลับทางทหาร

ตำรวจยังระบุว่า นายอีพยายามเข้าถึงเจ้าหน้าที่ทหารอีกนาย ซึ่งปฏิเสธนายลี ตอนนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนในความเกี่ยวข้องกับผู้ต้องสงสัยอีกคนที่ถูกระบุเป็นตัวกลางระหว่าง นายลี และร้อยเอกบี

 

ทั้งนี้ เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้อยู่ภายใต้ความสัมพันธ์ตึงเครียดตั้งแต่ทำสงครามเกาหลีระหว่างปี 2493-2496

ข่าวที่เกี่ยวข้อง