รีเซต

UK จับมือญี่ปุ่นและอิตาลี พัฒนาเครื่องบินรบล่องหนสุดล้ำ

UK จับมือญี่ปุ่นและอิตาลี พัฒนาเครื่องบินรบล่องหนสุดล้ำ
TNN ช่อง16
19 ธันวาคม 2566 ( 15:00 )
45
UK จับมือญี่ปุ่นและอิตาลี พัฒนาเครื่องบินรบล่องหนสุดล้ำ

เทคโนโลยีทางการทหารของโลกเราก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2023 สหราชอาณาจักรก็ได้ลงนามในสนธิสัญญาระหว่างประเทศอย่างเป็นทางการกับอีก 2 ประเทศยักษ์ใหญ่อย่าง อิตาลีและญี่ปุ่น เพื่อที่จะสร้างเครื่องบินขับไล่รุ่นที่ 6 ซึ่งเป็นเครื่องบินที่มีความเร็วเหนือเสียงจนตรวจจับได้ยาก หรือ สเตลท์ ไฟต์เตอร์ (Stealth Fighter) และจะติดตั้งเทคโนโลยีล้ำสมัยอีกมาก


ที่มารูปภาพ Gov.UK, Reuters


แผนการของโครงการนี้เปิดเผยสู่สาธารณะชนกว่า 1 ปีแล้ว แต่นี่เป็นความก้าวหน้าสำคัญที่เครื่องบินรบรุ่นใหม่นี้จะถูกผลักดันให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาจริง ๆ สำหรับเครื่องบินรบรุ่นนี้ อาจมีชื่อเรียกว่า เทมเพสต์ (Tempest) ซึ่งมีความหมายว่า พายุหรือความวุ่นวาย มันจะมีความเร็วสูงมากระดับเหนือเสียง (Supersonic) จนตรวจสอบพบได้ยาก แต่ชื่อที่เป็นทางการของเทคโนโลยีนี้คือเทคโนโลยีที่ทำให้โอกาสตรวจพบน้อย (Low Observable Technology) 


เครื่องบินรบรุ่นนี้จะติดตั้งเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างเช่น เซนเซอร์ขั้นสูง หรือแม้แต่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ มันสามารถยิงขีปนาวุธที่มีความเร็วเหนือเสียงได้ บางสถานการณ์มันยังสามารถบินได้เอง โดยไม่ต้องอาศัยข้อมูลจากนักบิน นอกจากนี้มันจะมีเรดาร์อันทรงพลังที่สามารถให้ข้อมูลได้มากกว่าระบบปัจจุบันถึง 10,000 เท่า ทำให้ได้เปรียบอย่างมากในการรบ


เมื่อเทมเพสต์สร้างเสร็จสิ้นแล้ว มันจะเข้ามาแทนที่ฝูงบินปัจจุบันอย่าง เอฟจีอาร์โฟร์ ไต้ฝุ่น (FGR4 "Typhoons") หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ยูโรไฟท์เตอร์ (Eurofighter)


การดำเนินการนี้อยู่ภายใต้โปรเจ็กต์ที่ชื่อว่าโกลบอล คอมแบต แอร์ โปรแกรม หรือ จีแคบ (Global Combat Air Programme : GCAP) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาเครื่องบินรบขับไล่รุ่นที่ 6 และการพัฒนาจะเริ่มต้มขึ้นในปี 2025 กระทรวงกลาโหมของสหราชอาณาจักร ประกาศเมื่อวันที่ 14 ธันวาคมว่า สนธิสัญญาฉบับใหม่มีเป้าหมายเพื่อ "ปรับปรุงขีดความสามารถทางทหาร ความเจริญ และผลประโยชน์เชิงกลยุทธ์สำหรับทั้ง 3 ประเทศ"


ในประกาศที่ถูกเผยแพร่ออกมายังชี้ว่า “โปรเจ็กต์นี้ถือเป็นส่วนสำคัญของความเสถียรภาพในยูโรแอตแลนติก อินโดแปซิฟิก และความมั่นคงระดับโลกในวงกว้าง และ GCAP เป็นตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นว่าสหราชอาณาจักรเป็นผู้นำระดับโลกในการพัฒนาขีดความสามารถทางการทหาร เพื่อยับยั้งและเอาชนะภัยคุกคามต่อสหราชอาณาจักรและพันธมิตร”


สำหรับสำนักงานใหญ่ของโปรเจกต์นี้จะตั้งอยู่ในสหราชอาณาจักร แต่ซีอีโอและผู้บริหารหลัก ๆ จะมาจากประเทศญี่ปุ่นและอิตาลี


เครื่องบินรบลำนี้มีกำหนดขึ้นบินภายในปี 2035 โดยมีระบบการทำงานเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัย และกลายเป็นหนึ่งในเครื่องบินขับไล่ที่ทันสมัยที่สุด ทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นได้ ปรับตัวได้ และเชื่อมต่อกันในการให้บริการทั่วโลก ซึ่งโปรเจ็กต์นี้คาดว่าจะสร้างงานที่มีทักษะสูงในสหราชอาณาจักรและประเทศพันธมิตรในทศวรรษหน้า



ที่มาข้อมูล Reuters, InterestingEngineering, Gov.UK, BBC

ที่มารูปภาพ ReutersGov.UK

ข่าวที่เกี่ยวข้อง